หลุด 1,600 หรือทะลุ 1,700

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ช่วงที่หลายคนกำลังลุ้นว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะกลับขึ้นไปทะลุ 1,700 จุดได้ก่อนสิ้นปีนี้อีกหรือไม่

แต่มีมุมมองอีกด้านว่า โอกาสที่ดัชนีจะหลุด 1,600 จุด (อีกครั้ง) ก็มีเช่นกัน

ในปี 2561 วันที่ดัชนีร่วงลงไปต่ำกว่า 1,600 จุด มีอยู่ทั้งหมด 7 วัน (ทำการ) โดยดัชนีลงไปที่ระดับต่ำสุดคือ 1,584 จุด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561

ส่วนวันที่ลงมาปิดต่ำกว่า 1,600 จุด มีอยู่ 2 วัน คือ วันที่ 28 – 29 มิถุนายน 2561

วันที่ดัชนีร่วงลงมานั้น มาจากปัจจัยต่างประเทศล้วน ๆ เลยล่ะ นั่นคือ “เทรดวอร์” หรือสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน

นักวิเคราะห์เขามองกันแบบนี้ครับ

หุ้นที่ปรับขึ้นมาในช่วงนี้มาจากบรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย หลังสหรัฐฯ กับจีนกำลังปูเสื่อนั่งเจรจากัน

ทว่า ไม่ได้หมายความว่า เทรดวอร์เริ่มจบ หรือสงบไปแล้ว

โอกาสที่จะปะทุรอบใหม่ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและยังคงเป็นปัจจัย global rick ที่จะส่งผลถึงตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศเกิดใหม่ และไทยด้วย

มีนักวิเคราะห์รุ่นเก๋าบอกว่า เศรษฐกิจจีนดูไม่ค่อยดีนัก

ตัวเลขจีดีพีเติบโตในอัตราถดถอย

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญสู้ก่อนหน้านี้ไม่ได้ และเริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าที่สหรัฐฯ จุดชนวนขึ้นแล้ว

ส่วนการประชุม G20 ในช่วงเดือน พ.ย.นี้

และจะมีการพบปะกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีของประเทศจีน ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่า การหารือจะออกมาอย่างไร

ถามว่า โอกาสที่ทรัมป์จะถอยซัก 1 ก้าวมีหรือไม่

คำตอบคือ “ยาก” เพราะพญาอินทรีมิอาจบินถอยหลังได้ และจะไม่บินเป็นฝูงด้วย

เมื่อโจมตีเหยื่อแล้ว ย่อมต้องตะครุบเหยื่อให้ได้

มาที่สี จิ้นผิง กันบ้าง

ถามว่า แล้วโอกาสที่จีนจะถอยซัก 1 – 2 ก้าวมีหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีใครกล้าฟันธง

แม้ว่าในเรื่อง “การค้า” ต้องยกนิ้วให้กับคนจีน ที่ค้าขายเก่ง แต่หากถูกรุกนานมาก ๆ มังกรอย่างจีนก็มีเลือดนักสู้ และพร้อมพ่นไฟใส่ศัตรูเช่นกัน

เชื่อว่า นักลงทุนทั่วโลกไม่มีใครอยากเห็นบรรยากาศแบบนี้

ปัจจัยเรื่องเฟด และบอนด์ยีลด์ที่สูงขึ้น ยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทยด้วยเช่นกัน

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น และฟันด์โฟลว์ยังคงไหลออก ล้วนยังคงเป็นปัจจัยลบที่จะเข้ามารบเร้าการลงทุนกับตลาดหุ้นไทยได้ตลอดเวลา

ดัชนีแถว ๆ 1,670 จุด พี/อี อยู่ที่ 16.5 เท่า ถือว่าค่อนข้างแพง

แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ยังไม่ถือว่าดีนัก

และเงินจากกองทุน LTF และ RMF เข้ามาค่อนข้างเยอะแล้วก่อนหน้านี้ และน่าจะเหลือไม่เกิน 1.5 – 1.6 หมื่นล้านบาท ทำให้เงินจากกองทุนอาจไม่พอที่จะรับมือกับแรงไหลออกของฟันด์โฟลว์

ขณะที่หุ้นหลาย ๆ ตัวที่ราคาวิ่งขึ้นมาในช่วงนี้ เพราะซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

ส่วนเมื่อวานนี้สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ก็ยอมรับว่า ปัจจัยลบเรื่องสงครามการค้าเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ได้

แต่หากให้มองจริง ๆ ก็ยังเชื่อว่า สหรัฐฯ กับจีนน่าจะเจรจากันได้

และหากเจรจากันได้ มีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปถึง 1,750 จุด และฟอร์เวิร์ดพี/อี ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับเพียง 13 เท่า และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้ลง 11.26 จุด มาที่ 1,670.58 จุด

นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อวันแรก 135.28 ล้านบาท หลังจากขายมา 20 วันทำการติดต่อกัน

แต่ตัวเลขซื้อแค่นี้ของต่างชาติ และเพิ่งจะเป็นวันแรกเท่านั้น

ยังไม่ถือว่ามีนัยสำคัญสักเท่าไหร่