BLA ผ่านช่วงของการตั้งสำรองสูงไปแล้วนั่นหมายถึงการโตของกำไรอย่างชัดเจน

BLA โบรกฯมองช่วงเวลาของการตั้งสำรองสูงได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งหมายถึงการเติบโตของกำไรอย่างชัดเจนโดยมีปริมาณเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (RBC) ที่ระดับสูงที่ 407% ในไตรมาส1/58 เทียบกับ 244% ในปี 56 แต่ยังไงก็ตาม BLA คาดว่าจำนวนที่อยู่ในระดับสูงมีโอกาสลดลงอย่างมีนัยยะหลังจากที่ RBC ช่วงระยะที่ 2 มีการนำมาใช้ในอนาคต เพราะฉะนั้น BLA ยังคงค่อนข้างระมัดระวังต่อฐานทุนของบริษัท แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 65 บาท


บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 มิ.ย. 58) ว่า บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กำไรจะเติบโตสวนภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในมุมมองของเรา แต่การเติบโตของกำไรของ BLA ไม่ได้มาจากการเติบโตของเบี้ยรับสุทธิแต่มาจากเรื่องราวการตั้งสำรองพิเศษที่ได้ผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว ในครึ่งหลังปี57 เช่นเดียวกับปริมาณสำรองพิเศษจำนวนมากในไตรมาส1/58ที่มีแนวโน้มจะน้อยลงมากหรือแถบไม่มีในไตรมาส2/58 จากการที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลได้มากการฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน BLA อยู่ในกระบวนการการพัฒนากลยุทธ์กิจเพื่อความยั่งยืนโดยบริษัทจะเน้นขายกรมธรรม์ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้นซึ่งจะตรงข้ามกับช่วงปีต้นปี 2557 ที่บริษัทได้ขายกรมธรรม์เน้นการออมที่มีอัตรากำไรต่ำ เพราะฉะนั้นเราคาดที่จะเห็น BLA มีกำไรที่ดีขึ้น

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวลดลงกว่า 50bps ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีกลับมาการฟื้นตัวสูงขึ้นอยู่ในระดับ 3.0% จากจุดต่ำสุดที่ 2.5% เราสามารถที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร ช่วงอายุดังกล่าวในการดูแนวโน้มการตั้งสำรองพิเศษของ BLA ได้เนื่องจาก BLA มีภาระหนี้สินที่มีความผันผวนใกล้เคียงระยะ 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอายุ 10 ปีบ่งบอกได้ว่าสำรองพิเศษจำนวนสูงในไตรมาส1/58จะไม่เกิดขึ้นใน ไตรมาส2/58 เพราะฉะนั้น เราคาดที่จะเห็นการฟื้นตัวของกำไรอย่างเด่นชัด โดยการตั้งสำรองในปริมาณที่มากที่สุดได้เกิดขึ้นไปแล้วในช่วงครึ่งหลังปี 57 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำไรของ BLA ได้อยู่ในช่วงที่ต่ำที่สุด

ความเสี่ยงของ BLA ได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับในอดีตจากการที่ duration gap ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนเหลือเพียงส่วนต่าง 1.5 ปีเท่านั้น

BLA คงประมาณการเบี้ยรับรวมลดลง 7-8% ในปีนี้และคาดที่จะเห็นเบี้ยรับปีแรกเติบโตลดลง 11% ซึ่งนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าตลาดประกันชีวิตอยู่ในภาวะย่ำแย่ แต่มาจากการที่ BLA มียอดขายกรมธรรม์ประเภทสะสมทรัพย์ที่มีกำไรต่ำที่มีปริมาณสูงมากในไตรมาส1/57

อุตสาหกรรมโดยรวมยังคงเติบโต แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแยจ่ กระทบตอ่ อัตราการเติบโต BLA ในปีนี้จึงไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเติบโตมากแต่คาดหวังที่จะเห็นสัดส่วนเบี้ยที่มีคุณภาพที่มีสัดส่วนสูงขึ้น โดยบริษัทคาดที่จะมีสัดส่วนกรมธรรม์ประเภทสินเชื่อบ้านในจำนวนที่มากขึ้น แม้ว่าการเติบโตของกรมธรรม์ประเภทนี้จะช้ากว่าที่คาดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการที่ธนาคารกรุงเทพ BBL ไม่ใช่ผู้เล่นหลักในสินเชื่อประเภทนี้แต่สินค้าประเภทนี้มีอัตรากำไรที่สูง

ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ BLA ที่มีการนำมาเสนอขายขึ้นมาคือประกันสุขภาพ โดยถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงแรก แต่บริษัทก็คาดหวังว่าสินค้าประเภทนี้จะเป็นปัจจัยช่วยหนุนการเติบโตในอนาคต

BLA มีปริมาณเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (RBC) ที่ระดับสูงที่ 407% ในไตรมาส1/58 เทียบกับ 244% ในปี 56 แต่ยังไงก็ตาม BLA คาดว่าจำนวนที่อยู่ในระดับสูงมีโอกาสลดลงอย่างมีนัยยะหลังจากที่ RBC ช่วงระยะที่ 2 มีการนำมาใช้ในอนาคต เพราะฉะนั้น BLA ยังคงค่อนข้างระมัดระวังต่อฐานทุนของบริษัท  แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 65 บาท

Back to top button