ยืนได้..ไปต่อ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากนักเล่นมองการเคลื่อนตัวของดัชนีโดยอิงกับสัญญาณเทคนิคเป็นหลักจะรู้ได้ทันทีว่า ดัชนีพยายามเทกตัวขึ้นเพื่อยืนเหนือระดับแนวต้าน 1,680 จุดมาแล้ว 2 ครั้งในรอบหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งวานนี้เป็นอีกครั้งที่ดัชนีพยายามประคองตัวปิดเหนือระดับดังกล่าว ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,681.73 จุด บวกไป 6.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.91 หมื่นล้านบาท มันทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนะจะบอกให้

*ถึงกระนั้นอย่าเพิ่งเกิดอาการมโนขั้นเทพก่อนที่ทุกอย่างจะมีความชัดเจน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้มาจากจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐาน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับดูทุกอย่างให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยตามไปเคาะขวาแบบสุดซอยก็คงไม่สายเกินไป เพราะสเต็ปต่อไปที่ควรเกิดขึ้นคือ ดัชนีต้องขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุด เพื่อทำให้รู้ว่า แรงซื้อที่เข้ามาในเที่ยวนี้มองเป้าไกลกว่าระดับดังกล่าวนะคะ

*หากไม่เป็นเหมือนกับที่นักเล่นคาดการณ์ไว้ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้รีบเผ่นเพื่อไปตั้งหลักดูสถานการณ์ เพราะผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของบริษัทหลายแห่งไม่แจ่ม จึงกลายเป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นเมื่อปัจจัยรอบด้านไม่เอื้อในทันที แถมหุ้นกลุ่มนี้มักโดนเทขายหนักก่อนใครเพื่อนเป็นประจำ เลยชอบแนะนำให้แฟนคลับเคาะสั้นวนไปเพื่อความคล่องตัวไงละค่ะ

*คล้ายกับไซเคิลของหุ้น PTTGC มีจุดสูงสุดของการเด้งกลับต่ำลงทั้งหมด 3 ยอด จนทรงของหุ้นดูไม่ค่อยสวยงามในมุมของเล่นเทคนิค “โมนิก้า” เลยถือโอกาสแนะนำแฟนคลับว่า หากวิ่งไม่ผ่านเส้น 200 วันที่บริเวณแนวต้าน 82.50 บาท มีสิทธิ์กลับไปตั้งหลักใหม่ที่บริเวณ 70 บาทต้น ๆ อีกหน จึงอยากให้แฟนคลับจับตาราคาปิดที่ 80 บาท บวกไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.09 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อหรือเปล่า ?

*เหมือนกับน้องเหน่อ NER พยายามยกตัวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเหล่านักเล่น แต่ดูเหมือนจะไม่มีคนเข้าร่วมอุดมการณ์สักเท่าไหร่ ?  สถานการณ์ของหุ้นเลยง่อนแง่นเหมือนเดิม แถมยังต้องไปลุ้นงบไตรมาส 3 ที่ประกาศในวันจันทร์จะออกมาดีขนาดไหน ? วานนี้ถึงเห็นหุ้นปิดได้แค่ระดับ 2.10 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 258 ล้านบาทเท่านั้น และการขึ้นไปยืนเหนือไอพีโอขึ้นอยู่กับกำไรโตขนาดไหนพะยะค่ะ

*ไหน ๆ พูดถึงเรื่องกำไรขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันมามองหุ้น PTG เพื่อทำให้นักเล่นเข้าใจสัจธรรมที่ว่า ยุบหนอ..พองหนอ มันเป็นเรื่องจริงที่เข้ากับสถานการณ์ของหุ้นตัวนี้ได้เป็นอย่างดี ! เพราะทันทีที่ประกาศงบไตรมาส 3 กำไรลดลง 99% หุ้นก็ไหลลงต่อแบบไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง จนสุดท้ายลงมายืนอยู่ที่ 9 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 645 ล้านบาทแบบนี้..คงต้องถาม เฮีย ล. ออกของหมดยังจ๊ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ GULF ทุกคนมองเหมือนกันว่า ปีหน้าราคาหุ้นถึง 100 บาทแน่นอน ล้วนเกิดจากความเชื่อในธุรกิจไฟฟ้าที่โตวันโตคืน นักลงทุนสไตล์คุณค่าถึงให้เป้าอนาคตค่อนข้างสูง ยิ่งมีการเปรียบเทียบกับหุ้นที่มีกำไรไฟเป็นพันเมกะวัตต์ ยิ่งทำให้ผู้รู้ปรับราคาเป้าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 78.50 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 พันล้านบาท ยังมีอัพไซด์ให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ CKP เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาว่า กกพ. หารือกับ กฟผ. เพื่อไปเจรจาซื้อไฟฟ้าจาก ผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเร็วกว่ากำหนด จึงเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า บ.แม่จะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.45 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 7.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 826 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ต้องตามลุยต่อนะจ๊ะ

*คล้ายกับกรณีของ VGI ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.85 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 287 ล้านบาท ก็มาจากผลงานที่เข้าเป้าตามแผนที่วางไว้ บรรดาขาลุยถึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง “โมนิก้า” ถึงมองกล้ามองยอดเดิมที่บริเวณ 8.50 บาทอีกรอบ หลังกูรูที่สัดทัดเรื่องโฆษณาพูดตรงกันหลายรายว่า ผลงานปีหน้าจะแหล่มกว่านี้ไงละค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่ยืนสวย ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันมามองหุ้น SAWAD เพื่อเสนอไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่กล้าลุยต่อ เพราะสตอรี่ที่บอกกับทุกคนว่า ไปกว้านซื้อหนี้จากแบงก์ใหญ่ 2 แห่งมาบริหารกว่า 1 พันล้านบาท มันทำให้รู้ทันทีว่า ลุยสุดตัว ! บวกกับเตรียมลุยซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 2 พันล้านบาทในเดือนหน้า มันทำให้ทุกคนเชื่อว่า ผลงานปีหน้าจะระเบิดเถิดเทิง หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 47.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 768 ล้านบาทแบบชิว ๆ งานนี้บอกได้แค่ว่า ทะลุ 50 บาทแล้วมองยาว ๆ 60 บาทเลยจ้า !