TKN ขาลงยาว! ร่วงต่อ10% นิวโลว์ในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังแจ้งงบฯ Q3/61 กำไรลด 19%
TKN ขาลงยาว! ร่วงต่อ10% นิวโลว์ในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังแจ้งงบฯ Q3/61 กำไรลด 19% โดย ณ เวลา 11.23 น. อยู่ที่ระดับ 11.30 บาท ลบ 1.00 บาท หรือ 8.13% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 129.67 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ณ เวลา 11.36 น. อยู่ที่ระดับ 11.10 บาท ลบ 1.20 บาท หรือ 9.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 141.65 ล้านบาท ราคาหุ้นขาลงต่อเนื่องโดยราหุ้นทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี 6 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นลงไปทดสอบระดับ 10.90 บาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559
บริษัทประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 จำนวน 128.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.5 ของรายได้จากการขาย ลดลงร้อยละ 19.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเทียบสัดส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขาย ลดลงร้อยละ 2.9 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (ลดลงร้อยละ 3.0 จากไตรมาส 2/2561)
โดยบริษัทฯ มีรายการพิเศษซึ่งกระทบงบการเงินในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิต การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ และค่าปรับจากกระทรวงอุตสาหกรรมส่งผลให้ภาพรวมกำไรลดลง ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการดังกล่าวอัตรากำไรสุทธิจะใกล้เคียงไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา
บริษัทฯมีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 1,518.3 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8.0 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 จากไตรมาส 2/2561)
กำไรขั้นต้นไตรมาสที่ 3 จำนวน 487.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.1 ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (ลดลงร้อยละ 0.1 จากไตรมาส 2/2561) โดยเป็นผลมาจากราคาต้นทุนสาหร่ายซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักลดลงจากปีก่อน รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งมีกำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยสินค้าปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 246.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.2 ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 จากไตรมาสเดียวกันปี ที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากไตรมาส 2/2561) เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มใช้งบกิจกรรมทางการตลาดในหลายประเทศ เช่น จีนและประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งในช่องทางออนไลน์และการจัดอีเวนท์ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์เถ้าแก่น้อยในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงการเปิดสำนักงานสาขาที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้บริษัทมีฐานข้อมูลและทำกิจกรรมการตลาด รวมถึงเพิ่มการขายผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงมากได้ในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯ มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้กับคู่ค้ารายใหม่ที่ประเทศจีนมูลค่า 13 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา