สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 12 พ.ย. 2561


ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 362.03 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,325.44 จุด ลดลง 203.72 จุด หรือ -1.77% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,059.09 จุด ลดลง 47.65 จุด หรือ -0.93% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.08 จุด ลดลง 52.26 จุด หรือ -0.74%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงตามราคาหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทลูเมนตัม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่ผลิตอุปกรณ์จับภาพบนใบหน้าของ iPhone ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ดิ่งลง อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ทางการมาเลเซียได้กดดันให้โกลด์แมน แซคส์จ่ายคืนเงินค่าธรรมเนียมจัดตั้งกองทุน 1MDB ซึ่งพัวพันกับคดีทุจริตและติดสินบน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,387.18 จุด ลดลง 602.12 จุด ร่วงลง -2.32% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,200.87 จุด ลดลง 206.03 จุด หรือ -2.78% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,726.22 จุด ลดลง 54.79 จุด หรือ -1.97%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.08 จุด ลดลง 52.26 จุด หรือ -0.74%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 11 เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนลบที่ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในปี 2526 หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมลดการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้เรียกร้องกลุ่มโอเปกไม่ให้ปรับลดการผลิตน้ำมัน หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะลดการส่งออกน้ำมันลงในเดือนหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 59.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือประมาณ 0.09% ปิดที่ 70.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 17 เดือน ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,203.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.9 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 14.011 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 845.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 11.90 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,085.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินปอนด์และยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.)  ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณของอิตาลี และความกังวลเกี่ยวกับการทำข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1241 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1335 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2852 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2975 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7189 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7226 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.84 เยน จากระดับ 113.80 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0098 ฟรังก์ จากระดับ 1.0055 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3227 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3210 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button