BJC คาดกำไรไตรมาส 4/61 โตสูงสุดของปีแนะซื้อเป้าหมาย 68 บาท
BJC คาดกำไรไตรมาส 4/61 โตสูงสุดของปีแนะซื้อเป้าหมาย 68 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(15พ.ย.) ว่า บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC กำไรสุทธิเท่ากับ 1,683 ล้านบาท หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน BJC มีกำไรปกติเพิ่มขึ้น 29% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,694 ใกล้เคียงกับที่คาด ยอดขายและกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่มีกำไรลดลง เนื่องจากยอดขายกระป๋องชะลอลงจากฐานสูงในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการส่งออกมากขึ้น และธุรกิจแก้วที่มาเลเซียยังได้รับความเสียหายจากสายการผลิตขัดข้อง
ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้ผลบวกจากการสินค้าใหม่ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับดี กลุ่มสินค้าเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ BigC มี SSSG อยู่ในเกณฑ์ดีที่ +2.5% (เทียบกับ -0.5% ใน 2Q61 และ +9.2% ใน 3Q60) และขยายสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต 2 สาขา (+10สาขา เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) นอกจากนั้น BJC มีอัตราภาษีลดลงเหลือประมาณ 10% ของกำไร เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มบริษัท
คาดกำไร ไตรมาส4/61 เติบโตทั้ง เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีก BigC มีการขยายสาขาต่อเนื่อง ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้ประโยชน์เต็มไตรมาสหลังจากขยายกำลังการผลิตขวดแก้วเมื่อเดือน ก.ย. ขณะที่โรงงานแก้วในมาเลเซียคาดจะกลับมาผลิตหลังจากสายการผลิตขัดข้องใน 2Q61 นอกจากนั้น อัตราภาษีมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัท
ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 68 บาท โดยคาดว่าผลประกอบการจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2562 จากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจค้าปลีกภายใต้ BigC