XO กำไรโตเท่าตัว!

ตีแผ่บจ.ดัง

คุณเอกจักร จากบางซื่อ กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น XO หรือ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก ๆ เพราะปีก่อนยังทำผลงานแบบก๊อก ๆ แก๊ก ๆ แต่ปีนี้กลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนราคาหุ้นในกระดานทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จึงอยากรู้ว่าบริษัทจะสามารถทำผลงานดี ๆ แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ? เพราะกลัวว่าตนเองจะหลงเข้าไปซื้อหุ้นราคาสูงไงล่ะครับ

 

ประเด็นของการลงทุนเที่ยวนี้เป็นอะไรที่ยากมาก ๆ เพราะบริษัทส่วนใหญ่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดี และภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังชะลอตัว หรือแม้กระทั่งบรรยากาศโดยรวมก็ไม่มีอะไรที่เป็นใจให้สักอย่าง ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของหุ้นหลายตัวถูกตั้งคำถามว่าไปไกลแค่ไหน?

ตรงนี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นทุกตัว และจะถูกถามไถ่เข้ามาค่อนข้างเยอะเมื่อหุ้นตัวนั้นทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพราะทุกคนกังวลว่าผลงานที่ดีขึ้นจะเกิดขึ้นแค่ปีนี้ปีเดียว ซึ่งเป็นความคิดที่แพร่หลายมากในหมู่นักลงทุนรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับหุ้นตัวนั้น ๆ

อาจารย์ถึงไม่แปลกใจที่นักลงทุนตั้งคำถามทำนองนี้กับหุ้น XO หรือ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) เพราะที่ผ่านมาเคยพานักลงทุนหลายรายไปติดดอยมาแล้ว ครั้งนี้เลยถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับทิศทางของผลประกอบการ และการขยับตัวขึ้นมาของหุ้นมากหน่อย ซึ่งตัวอาจารย์ก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่มีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้น จึงต้องมาร่วมค้นหาว่า หุ้นตัวนี้โตระเบิดได้อย่างไร

โดยสิ่งที่อาจารย์ค้นพบจากงบการเงินดังกล่าวคือ ยอดขายของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ตัวเลขกำไรเติบโตตามไปด้วย หรือพูดให้เข้าใจในภาษาทางการคงเป็นเรื่องของ economy of scale ซึ่งแปลได้ว่าเป็นการประหยัดจากขนาดของธุรกิจหรือกำลังการผลิต (ผลิตมากต้นทุนยิ่งถูกมาก)

นอกจากเรื่องดังกล่าวที่พูดถึงในข้างต้นแล้ว ยังต้องชมเชยฝ่ายการตลาดที่สามารถปั๊มยอดขายได้ดีเยี่ยมยอด ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นอัตโนมัติ อาจารย์ถึงอยากให้นักลงทุนมองถึงตรงจุดนี้มากหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการทำกำไรในอนาคตนั่นเอง

เนื่องจาก “ยอดขาย” ที่เพิ่มขึ้นย่อมเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้องการ “สินค้า” ที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องประเมินกันเอาเองว่า สินค้าของ XO มีแนวโน้มการขยายตัวได้ดีเพียงใด เพราะสิ่งที่เห็นตอนนี้เป็นเพียงผลดีแค่ระยะสั้น ๆ ที่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมมากที่สุด

ที่สำคัญหากดูจากสถิติเก่าย้อนหลังจะเห็นว่า บริษัทจะสามารถรักษายอดขายให้เติบโตได้ต่อไปอีก 1 ปี และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ราคาหุ้นน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกนิดหน่อย เพราะเมื่อดูจากค่า P/E 20 เท่า ราคาหุ้นจะอยู่แค่ระดับ 12 บาท (ภายใต้สมมติฐานกำไรต่อหุ้น 0.60) และหากขยับค่าดังกล่าวขึ้นไปถึง P/E 30 เท่า ราคาหุ้นจะขยับขึ้นไปแถว 18 บาทกันเลยทีเดียวนะครับ

วันนี้ถึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนให้แวลูของหุ้นตัวนี้มากขนาดไหน?

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

…