แนวรับ 1,600 ยังแข็ง! SET เปิดเช้าร่วงแค่ 6 จุด ต้านปัจจัยตปท.รุมเร้า

แนวรับ 1,600 ยังแข็ง! SET เปิดเช้าร่วงแค่ 6 จุด ต้านปัจจัยตปท.รุมเร้า โดยเปิดที่ 1,605.81 จุด ลบ 6.22 จุด หรือ 0.39% สูงสุดที่ 1,606.52 จุด ต่ำสุดที่ 1,603.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.74 พันล้านบาท


ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 1,605.81 จุด ลบ 6.22 จุด หรือ 0.39% สูงสุดที่ 1,606.52 จุด ต่ำสุดที่ 1,603.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.74 พันล้านบาท ส่วนหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ดังนี้

โดยนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงราว 0.5-1% ตามดาวโจนส์ที่เมื่อคืนร่วงแรง จากความกังวลสงครามการค้าจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และมีการคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯจะไม่โตในปีหน้า รวมถึง “โกลด์แมน แซคส์” ออกมาระบุว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะผันผวนมากขึ้น พร้อมปรับลดราคาประมาณการของหุ้นแอปเปิล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงแรง คาดว่าจะฉุดหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศให้ติดตามมาตรการช็อปช่วยชาติ ส่วนนอกประเทศให้ติดตามความคืบหน้าสงครามการค้า, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นต้น พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,615 จุด

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET วันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อเนื่องจาก Sentiment การลงทุนที่ยังเป็นลบ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังดิ่งลงต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 6% ซึ่งกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ยังถ่วงตลาด อย่างไรก็ตามมองว่าน่าจะมีแรงซื้อกลับให้เห็นบริเวณแนวรับสำคัญ 1,585-1,600 จุด รวมถึงเม็ดเงิน LTF-RMF ในช่วงปลายปี ทำให้มีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้น โดยมองว่าหุ้นกลุ่ม Domestic และ Defensive Play น่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด

ขณะเดียวกัน บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุมีมุมมองเป็นลบ คาดดัชนีอ่อนตัวลงทดสอบ 1,600 จุด +/- จากแรงกดดันปัจจัยภายนอกตามความกังวลปัญหา Trade war ที่ยืดเยื้อหลังสหรัฐฯจะยังคงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หากจีนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการทำการค้ากับสหรัฐฯ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงกว่า 6% ทำโลว์ในรอบปีหลังลิเบียผลิตน้ำมันเพิ่ม 2 เท่าเป็น 1.3 ล้านบาร์เรล รวมถึง sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ภาวะการลงทุนทั่วโลกและไทยเป็นลบ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีสลับเด้งรีบาวด์ในระหว่างวันได้หลัง Valuation ลงมาที่ระดับน่าสนใจ (P/E 15 เท่า Div 3%) รวมถึงเป็นแนวรับตามเทคนิค

Back to top button