SET บ่ายซบเซา-แกว่ง sidewayโบรกแนะเก็บ AOT หลังร่วงแรง

SET ปิดปรับตัวลงด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง แต่ยังได้รับผลดีจากการทำ window dressing ก่อนปิดงบปลายเดือนนี้ช่วยพยุงไม่ให้ปรับตัวลงมากนัก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนรอดูความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยุโรป บ่ายนี้คาดดัชนีหุ้นไทยซบเซา และแกว่งตัว sideway ต่อจากช่วงเช้า โดยมีแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (18 มิ.ย.) ปิดปรับตัวลงด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง แต่ยังได้รับผลดีจากการทำ window dressing ก่อนปิดงบปลายเดือนนี้ช่วยพยุงไม่ให้ปรับตัวลงมากนัก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนรอดูความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยุโรป

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยจะซบเซา และแกว่งตัว sideway ต่อเนื่องจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด ขณะที่แนะนำซื้อ AOT

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ แต่ปริมาณการซื้อขายไม่มากนักส่งผลให้ดัชนีไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงของดัชนีไม่มากนัก เนื่องจากยังได้รับผลดีจากการทำ window dressing ก่อนปิดงบในช่วงปลายเดือนนี้

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3/58 ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออก

ส่วนปัจจัยนอกประเทศ นักลงทุนบางส่วนยังรอดูความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยุโรป เนื่องจากเกรงว่าหากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจา อาจส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงปลายเดือนนี้ และยังกดดันให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนด้วย

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะซบเซา และแกว่งตัว sideway ต่อเนื่องจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,530 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 18 มิ.ย. ) ว่า แรงขายหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวขนาดใหญ่ อย่าง AOT-AAV-CENTEL และ MINT กดดัน Sentiment ตลาด ซึ่งการปรับลดลงของหุ้น AOT เป็นโอกาสซื้อ ประเมินแนวรับ 304/300/296 บาท เนื่องจาก 1) ICAO พอใจแนวทางการแก้ไขปัญหาของไทยในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าจะไม่มีการประกาศมาตรการเพิ่มเติมจนทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ

2) จำนวนผู้โดยสารเติบโตแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3/58 (เม.ย.-มิ.ย.) ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 เติบโตแข็งแกร่ง และ 3) การขยายสนามบินดอนเมือง Terminal 2 ปลายปีนี้ และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ (เปิดประมูลหารับเหมาปลายปีนี้) เป็นปัจจัยหนุนกำไร AOT เติบโตในระยะกลางและยาว คงแนะนำเป้าหมายพื้นฐานที่ 380 บาท

ขณะที่ภาพรวมสำหรับตลาดหุ้นไทย คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,495/1,506-1,520 จุด โดยรอความชัดเจนการประชุม รมต.คลังยุโรป คืนนี้

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ( 18 มิ.ย. ) ว่า ภาพรวมตลาดเช้าดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนก่อนปรับลง โดยถูกกดดันจากการขายทำกำไรของหุ้น AOT-PTT-PTTEP-BDMS-ADVANC-IRPC และ TRUE ขณะที่ เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.25% แม้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ขณะที่ ตลาดรับแรงกดดันจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกไม่มาก ส่วนตลาดยุโรปปิดลบ เนื่องจากใกล้ครบกำหนดชำระหนี้ของกรีซต่อเจ้าหนี้ยุโรป โดยธนาคารกลางกรีซ เผยกรีซมีความเสี่ยงที่จะถูกขับออกจากยูโรโซน และสหภาพยุโรป (EU) หากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันพรุ่งนี้

ด้านธปท.เตรียมแถลงข่าวในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะมีการปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจเหลือ 3.5% จาก 3.8% แต่เศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง จากการเร่งใช้จ่ายและลงทุนของรัฐบาล โดยส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง

แนวโน้มภาคบ่าย คาดดัชนีย่อตัวหลังจากการขึ้นไปชนแนวต้าน โดยมีแนวต้านในสัปดาห์นี้ที่ 1,520 จุด และดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,506-1,510 จุดและมีสัญญาณลดลงใน MACD

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,452.04 ล้านบาท ปิดที่ 308.00 บาท ลดลง 9.00 บาท

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 890.57 ล้านบาท ปิดที่ 4.14 บาท ลดลง 0.14 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 736.77 ล้านบาท ปิดที่ 6.05 บาท ลดลง 0.10 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 665.37 ล้านบาท ปิดที่ 353.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

BWG มูลค่าการซื้อขาย 580.42 ล้านบาท ปิดที่ 1.89 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button