ORI ขาลงไม่เลิก! ร่วงต่อ4% โบรกฯชี้หุ้นอสังหาฯเสี่ยงเจอ 4 ปัจจัยกดดันหนัก!
ORI ขาลงไม่เลิก! ร่วงต่อ4% โบรกฯชี้หุ้นอสังหาฯเสี่ยงเจอ 4 ปัจจัยกดดันหนัก! โดย ณ เวลา 15.27 น. อยู่ที่ระดับ 6.95 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 4.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 139.65 ล้านบาท
ผู้สื่อข่ารายงานว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ณ เวลา 15.27 น. อยู่ที่ระดับ 6.95 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 4.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 139.65 ล้านบาท ราคาหุ้นยังเป็นขาลงนับตั้งแต่ยืนที่ระดับ 14 บาท เมื่อวันที่ 6 มี.ค.61
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า Thailand Property ให้นำหนักการลงทุนของกลุ่มที่ Neutral แต่มุมมอง 6 เดือนจากนี้เป็นลบ โดยมองว่าประเด็นกดดันต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อกลุ่มหลายประเด็นรวมกันทำให้ประเมินผลกระทบเป็นเชิงตัวเลขที่ยากหากแต่เป็นการสร้าง Sentiment เชิงลบกดดันการลงทุนกลุ่มนี้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตามมีการทำ Sensitivity ปรับประมาณการในปี 2562 ลง 10% และเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนในระยะยาวที่รับความผันผวนได้ โดยมองว่าในระยะสั้นผลประกอบการของกลุ่มในไตรมาส 4/61 ยังเติบโตได้เทียบไตรมาสก่อนหน้า และเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามประเด็นกดดันของกลุ่มในปี 2562 เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นและทำให้ประมาณการของกลุ่มยังผันผวน ประเด็นที่กังวล เช่น LTV เกณฑ์ใหม่ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ภาพรวมของ Demand ที่ไม่สดใส ผลกระทบจาก Trade War ต่อ Demand กลุ่มคนจีนในตลาดคอนโดมิเนียมการเริ่มใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2563
ขณะที่มุมมองบวกมองไปที่ Supply คาดว่าจะมีการระบายออกมามากและเป็นเวลาของผู้ซื้อที่มีความพร้อมและฐานะการแข็งแกร่ง และ Segment ล่างที่มีนโยบายบ้านล้านหลัง
จากประเด็นกดดัน 4 ประเด็นของกลุ่ม ทำให้ทดลองตั้งสมมติฐานของกำไรสุทธิในปี 2562 ว่ามีโอกาสต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 10%พบว่าในปี 2562 ประมาณการ EPS ของกลุ่มอังหาริมทรัพย์จะเท่ากับ 11.51 บาท ลดลง 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่คาดที่ 12.79 บาท
โดยบริษัทที่ยังสามารถมี EPS เติบโตบนฐานของการปรับประมาณการลงคือ SPALI GOLD LPN ORI SIRI ขณะที่ AP LH QH PSH ANAN จากสมมติฐานของในปี 2562 ที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิลง 10%
บริษัทที่ยังมี EPS เติบโตได้ดีคือ SPALI รวมทั้งมี PER ที่เป็น -0.5 SD ทีต่ำเพียง 7.6 เท่า โดยการฟื้นตัวของ EPS ในปี 2562 ส่วนหนึ่งเกิดจาก Dilution ของ SPALI-W4 ที่เข้ามาใน 2561 และมองว่าในระยะยาวเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่สะสมได้
ขณะที่หุ้น 2 ตัวก่อนหน้านี้ที่ขอบคือ ANAN และ GOLD แนะนำ ANAN สำหรับนักลงทุนระยะสั้นจากทิศทางผลประกอบการของปีนี้ที่เด่นมากแต่อ่อนตัวในปี 2562 ขณะที่ GOLD มองว่าเป็นโอกาสของการสะสมเพื่อเก็บเกี่ยวการเติบโตของ Asset Value จากโครงการสามย่าน มิตรทาวน์ในปี 2563