มติเอกฉันท์! ผถห. NEWS ไฟเขียวขาย “สปริงนิวส์ ช่อง 19” ให้ TVD คะแนนเสียงสูงลิ่ว 99.99%
มติเอกฉันท์! ผถห. NEWS ไฟเขียวขาย "สปริงนิวส์ ช่อง 19" ให้ TVD คะแนนเสียงสูงลิ่ว 99.99%
บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS แจ้งผ่านตลาดหลัดทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 มีมติอนุมัติให้บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถือในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.1 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPTV ให้แก่บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD โดยผู้ถือหุ้นลงมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,685,139,479 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 แต่ไม่เห็นด้วยจํานวน 1,045,100 เสียง คิดเป็นร้อยละ 0.01
รวมทั้งอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 149,530,870,699 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 281,961,297,580 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 132,430,426,881 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ
อีกทั้งอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 67,887,511,111 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 132,430,426,881 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 200,317,937,992 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 67,887,511,111 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) ในอัตราการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่
โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท และหากมีหุ้นเหลือจากการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม (RO) บริษัทฯจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยราคาเสนอขายจะเป็นราคาตามราคาตลาดในราคาที่ดีที่สุดและไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม โดยโดยผู้ถือหุ้นลงมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,674,741,919 หรือร้อยละ 99.63
ขณะที่ นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEWS เปิดเผยว่า บริษัทฯจะสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นจากการดำเนินธุรกิจประกอบกิจการโทรทัศน์ เป็นผู้ให้บริการเนื้อหา (Content Provider) และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการขายโฆษณาด้วยการเช่าช่วงเวลาออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นและให้บริการผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัทย่อย
นอกจากนี้การผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นที่มีอันดับความนิยมสูงย่อมส่งผลต่อรายได้จากการขายโฆษณาที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทฯ จะมีรายได้ที่แน่นอนจากค่าตอบแทนตามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาผลิตรายการ เป็นระยะเวลา 124 เดือน ซึ่งนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ
ส่วนการเพิ่มทุนนั้น บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงิน และทำให้สถานะทางการเงินในภาพรวมของบริษัทฯ ดีขึ้น ตลอดจนสามารถการชำระหนี้สินคงค้างของ SPTV ซึ่งเป็นเงื่อนไขบังคับก่อนในการจำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถืออยู่ใน SPC ให้แก่ TVD
ทั้งนี้ SPTV เป็นผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์และธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนทุกชนิด โดยได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการหมวดข่าวสารและสาระ สำหรับช่องสปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอลช่อง 19
อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการ NEWS ครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2561 ได้มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัท สปริงนิวส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC) จำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถือในบริษัท สปริงนิวส์เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.1 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPTV ให้แก่ TVD
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการของ TVD เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) จากบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท นิวส์เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90.10 ของหุ้นทั้งหมดที่ออกและชำระแล้วของ SPTV โดยปราศจากภาระผูกพันและการรอนสิทธิใดๆ
ทั้งนี้เพื่อถือครองใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ฯ และประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการหมวดข่าวสารและสาระ ช่องสปริงนิวส์ บริษัทต้องชำระค่าหุ้นเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ 7,655,000บาท นับตั้งแต่วันที่การซื้อขายหุ้นของ SPTV สำเร็จเป็นต้นไป จนสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาของใบอนุญาตกิจการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 949,220,000 บาท
รวมทั้งชำระค่าผลิตรายการข่าวสารและสาระในอัตราเดือนละ 1,055,000 บาท และให้สิทธิ SPC ขายเวลาโฆษณาอีกในสัดส่วนร้อยละ 30 ของเวลาที่ SPC ผลิตรายการข่าวสารและสาระ ซึ่งคำนวณเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ 540,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 1,595,000 บาท