สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวัน “ไซเบอร์มันเดย์” หรือวันจันทร์หลังเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐนั้น จะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ด้วยเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,640.24 จุด พุ่งขึ้น 354.29 จุด หรือ +1.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,081.85 จุด เพิ่มขึ้น 142.87 จุด หรือ +2.06% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,673.45 จุด เพิ่มขึ้น 40.89 จุด หรือ +1.55%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และจากการที่รัฐบาลอิตาลีส่งสัญญาณปรับลดตัวเลขเป้าหมายขาดดุลงบประมาณตามคำเรียกร้องของสหภาพยุโรป (EU)

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.23% ปิดที่ 358.33 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,354.72 จุด เพิ่มขึ้น 162.03 จุด หรือ +1.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,994.98 จุด เพิ่มขึ้น 48.04 จุด หรือ +0.97% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,036.00 จุด เพิ่มขึ้น 83.14 จุด หรือ +1.20%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับสหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติปฏิญญาว่าด้วยความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,036.00 จุด เพิ่มขึ้น 83.14 จุด หรือ +1.20%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะลงมติปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากอะโดบี อนาลิติค คาดการณ์ว่า ยอดขายทางออนไลน์ในวัน “ไซเบอร์มันเดย์” จะทำสถิติสุงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 51.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,222.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.8 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 14.205 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 847.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,124.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ความเสี่ยงที่รัฐสภาอังกฤษอาจไม่อนุมัติต่อร่างข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งการประชุม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.64 เยน จากระดับ 112.88 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9991 ฟรังก์ จากระดับ 0.9974 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3241 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3230 ดอลลาร์แคนาดา

ขณะที่สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1329 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1.2811 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2808 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7228 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7226 ดอลลาร์สหรัฐ