BEAUTY เด้ง 4% คาดผลงานไตรมาส 4 สดใสรับไฮซีซั่น คงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 4.3 พันลบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ณ เวลา 16.28 น. อยู่ที่ระดับ 9.05 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 4.02% สูงสุดที่ระดับ 9.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” BEAUTY ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท/หุ้น โดยได้จัด Conference call กับ BEAUTY วานนี้ มีมุมมองเป็นกลางกับ Outlook ของ BEAUTY โดยผู้บริหารคงเป้ารายได้ปี 2561 อยู่ที่ 4,290 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 4/61 ผู้บริหารเผยมีแผนที่จะเพิ่มยอดขายโดยจัด Seasonal sale, CRM program, วันคนโสด 11 พ.ย. ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด นอกเหนือจากนี้ ยังคาดว่าจะมีออเดอร์จาก 4 platforms ใหม่ หนุน CBEC ขยายตัวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม มองว่ากำไรสุทธิไำตรมาส 4/61 จะเติบโตต่อเนื่องที่ 379 ล้านบาท (ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 15.2% จากไตรมาสก่อน) จาก High season ในไตรมาส 4 คาดรายได้ในประเทศเติบโตโดดเด่น, คาดรายได้ CBEC อยู่ที่ 160 ล้านบาท และเริ่มรับรู้รายได้จากการทำตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-62 ลดลง 4.6% และลดลง 1.5% อยู่ที่ 1,247 และ 1,502 ล้านบาท ตามลำดับ จากสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลงและการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์เดิม

โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 49% ในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ชะลอตัวไปพอสมควรแล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 12.30 บาท ปัจจุบัน BEAUTY เทรดอยู่ที่ PER 19.5x ซึ่งต่ำกว่า -1SD Avg. PER 32.5x

ทั้งนี้ ได้จัด Conference call กับ BEAUTY วานนี้ มีมุมมองเป็นกลางกับ Outlook ของ BEAUTY โดยผู้บริหารคงเป้ารายได้ปี 2561 อยู่ที่ 4,290 ล้านบาท แม้ BEAUTY มองว่าสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 3/61 แต่ทาง BEAUTY ได้ปรับกลยุทธ์เน้นการทำตลาดจีนผ่าน Cross-Bordered-E-Commerce (CBEC) มากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายจาก China Market ซึ่งเป็นตลาดหลักของ BEAUTY โดยปัจจุบันมีจำหน่ายผ่าน 5 platforms และอยู่ระหว่างเซ็นต์สัญญาเพิ่มอีก 4 platforms คาดแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.

สำหรับไตรมาส 4/61 ผู้บริหารเผยมีแผนที่จะเพิ่มยอดขายโดยจัด Seasonal sale, CRM program, วันคนโสด 11 พ.ย. ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด นอกเหนือจากนี้ ยังคาดว่าจะมีออเดอร์จาก 4 platforms ใหม่ หนุน CBEC ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/61 จะเติบโตต่อเนื่องที่ 379 ล้านบาท (ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน , เพิ่มขึ้น 15.2% จากไตรมาสก่อน) จาก High season ในไตรมาส 4 คาดรายได้ในประเทศเติบโตโดดเด่น, คาดรายได้ CBEC อยู่ที่ 160 ล้านบาท และเริ่มรับรู้รายได้จากการทำตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น มาเลเซีย, สิงค์โปร์

โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-62 ลง 4.6% และลดลง 1.5% อยู่ที่ 1,247 และ 1,502 ล้านบาท ตามลำดับจากสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลงและการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์เดิม ซึ่งส่งผลกระทบต่อ SSSG โดยปรับ SSSG ในปี 2561 ลงเป็น 0.7% (เดิม 7%) สำหรับปี 2562 มองว่า รายได้ของ BEAUTY จะเติบโตต่อเนื่องในทุกช่องทาง ทั้ง Beauty stores และ Non – Beauty stores โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางออนไลน์และต่างประเทศ คาดเห็นการขยายตัวที่โดดเด่น หนุนโดย เศรษฐกิจจะขยายตัวหลังการเลือกตั้ง ส่งผลให้การบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้นตัว คาด SSSG อยู่ที่ 12.7% จากฐานที่ต่ำในปี 2561

อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 12.30 บาท อิง DCF (WACC 12.3%, TG 3.2%) เทียบเท่า  PER ปี 2562 ที่ 24.6x ปัจจุบัน BEAUTY เทรดอยู่ที่ PER 19.5x ซึ่งต่ำกว่า -1SD Avg. PER 32.6x มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 49% ในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ชะลอตัวไปพอสมควรแล้ว

โดยมองว่าสถานการณ์ที่เป็นลบได้เริ่มคลี่คลาย มองว่าผลประกอบการ BEAUTY จะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งในปี 2562 และยังมี Short term catalyst จากการซื้อหุ้นคืนที่ 64 ล้านหุ้น (ครบกำหนด 23 ม.ค. 2562) ปัจจุบันมีการซื้อคืนทั้งสิ้น 12.7 ล้านหุ้น มองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมาเกินจริง กำไรสุทธิของ BEAUTY ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/61 แนะนำให้ “เข้าซื้อสะสม” หุ้น BEAUTY