สังคมข่าวหุ้น

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,640.63 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.36 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 3.1 หมื่นล้านบาท


นิวส์เวฟ

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,640.63 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 6.36 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 3.1 หมื่นล้านบาท

* นับวันมูลค่าการซื้อขายยิ่งเบาบางลงทุกที แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะอดทนถือเงินสดชะลอเคาะซื้อหุ้นไปก่อนชั่วคราว เพราะยังไม่เชื่อมั่นในภาวะตลาดหุ้นไทยที่อารมณ์แปรปรวนเป็นอย่างมาก แต่งานนี้นิวส์เวฟเห็นด้วยนะที่จะถือเงินสดกันไปก่อน หลังจากช่วงนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้น แล้วยังต้องจับตารอดูอีกเพียบหลายประเด็น เช่น การประชุม G20 รวมถึงการประชุมกลุ่มโอเปกและนอกโอเปก ซึ่งมีกำหนดหารือชี้ชะตาราคาน้ำมัน

* ดังนั้น WAIT AND SEE จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด หยุดยืนรอดูสถานการณ์โดยรวมแล้วปรับกลยุทธ์กันใหม่ก็ไม่สายเกินไป ตัวไหนดีดแรงจนเราตกขบวนแล้วก็ไม่ต้องวิ่งตามใส่ เพราะสามารถหาตัวอื่นที่น่าสนใจทดแทนได้เช่นกัน และหลายหุ้นยังมีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัวไม่ต้องรอประเด็นเชิงเศรษฐศาสตร์มหภาคมาช่วยผลักดันด้วยซ้ำไป

* หุ้น BEM ถ้าตามอ่านกันมาต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แนะนำนักลงทุนให้ทยอยสะสมตั้งแต่สมัยราคาต่ำกว่า 8 บาท กรณีคนที่มีหุ้น BEM ด้วยต้นทุนต่ำกว่ากระดานแล้วสามารถถือต่อเพื่อลุ้นรับกำไรหุ้นได้ หรืออาจจะทำกำไรบางส่วนเพื่อดึงต้นทุนกลับคืนมา โดยหุ้นยังมีปัจจัยบวกหนุนทั้งงบปี 2561 ที่การันตีแทบ 100% ว่าโตเด่นมหาศาล แล้วยังมีอัพไซด์เพิ่มกรณีร่วมประมูลโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่ง BEM ได้ผนึกกำลังกับ CK-กลุ่มซีพี เข้าไปต่อสู้กับฝั่งกลุ่ม BTS ทำให้ในช่วงใกล้ประกาศผล (เดือน ธ.ค.) จะส่งผลให้หุ้นได้รับแรงซื้อเก็งกำไรหนุนราคา ส่วนคนที่สนใจ BEM แต่ยังไม่มีในมือแนะรอช่วงอ่อนตัวสถานเดียว ไม่คุ้มเสี่ยงเข้าเก็บในช่วงราคาใกล้ปะทะแนวต้าน 9 บาท

* หุ้น SCC ช่วงนี้วิ่งโดดเด่นเหนือบลูชิพทุกตัว โดยมีแรงหนุนสำคัญกรณีราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลงแรง จึงส่งผลให้บริษัทได้รับประโยชน์ในตัวสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีสูงขึ้น รวมถึงยังส่งผลดีต่อต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในธุรกิจวัสดุก่อสร้าง จึงเท่ากับหุ้นปูนใหญ่ได้รับผลบวกไปเต็ม ๆ ถึงสองขา สำหรับราคาหุ้นที่ระดับ 450 บาท ถือเป็นจุดวัดใจสำคัญ โดยในสัปดาห์นี้วิ่งขึ้นไปเกิน 450 บาทได้แล้วถึง 2 วันทำการ แต่ยังไม่สามารถยืนเหนือไว้ได้ เพราะโดนแรงขายทำกำไรกดดันเสียก่อน แต่งานนี้ขอลุ้นเอาใจช่วย SCC เต็มที่ เพราะถือเป็นหุ้นบลูชิพที่กำลังรับบทบาทเป็นพระเอก ยืนผลักดันดัชนีตลาดหุ้นไทยแทนฝั่งหุ้นน้ำมันและแบงก์ที่กำลังปรับลง

* ขานิยมหุ้นเทิร์นอะราวด์ ขอฝากให้ลองพิจารณา EPG กันดู ล่าสุดเริ่มมีแรงซื้อทยอยกลับเข้ามาต่อเนื่อง จนผลักดันให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงกว่าก่อนแขวน XD ไปแล้วเสียอีก จึงสะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดเริ่มกลับมาโฟกัสหุ้น EPG อีกรอบแล้ว โดยเป็นผลมาจากพื้นฐานบริษัทที่เริ่มกลับมามีศักยภาพทำกำไรได้ดีขึ้นตามลำดับ ด้วยแรงหนุนธุรกิจ AEROFLEX-AEROKLAS ที่กำลังเติบโตได้ดี ส่วนธุรกิจ EPP แม้ยังไม่โดดเด่นเท่า 2 ธุรกิจที่ว่ามา แต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ทำให้ภาพรวมของงบครึ่งปีหลัง (ต.ค. 2561-มี.ค. 2562) มีโอกาสกลับมาสดใสอีกรอบ ราคาเป้าหมายเฉลี่ยโบรกฯ เคาะให้ไว้ที่ 10 บาท มีอัพไซด์และสตอรี่หุ้นให้เล่นอีกเพียบ

* ปิดท้ายด้วยหุ้น SISB หุ้นไอพีโอน้องใหม่มีกำหนดเข้าเทรดตลาด mai ในวันนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งล่าสุด ก.ล.ต.ยืนยันชัดเจนว่า SISB เข้าจดทะเบียนในตลาดได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์แน่นอน (รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากข่าวหน้า 1) จึงขอให้นักลงทุนทุกคนเชื่อมั่นและสบายใจกันได้ *

Back to top button