EIC ชงผถห.ไฟเขียวซื้อกิจการ “เบคชีสทาร์ต” มูลค่า 350 ลบ. หวังรุกธุรกิจอาหารหนุนรายได้โต

บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการเกี่ยวกับการเข้าลงทุนของบริษัทย่อย บริษัท ฟู้ดโฮลดิ้ง จำกัด (Food Holding) ที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.97 ในบริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด (เบค ชีส ทาร์ต) จำนวน 1,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 จากผู้ถือหุ้นเดิมของ เบค ชีส ทาร์ต ได้แก่ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ นายเริงฤทธิ์ แมคอินทอช และ ออโรร่า โพลารี่ส์ แอสเสทส์ ลิมิเต็ด (Aurora Polaries Assets Limited) ที่ราคาหุ้นละ 350,000 บาท รวมเป็นมูลค่าการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจำนวน 350,000,000 บาท

อนึ่ง บริษัท เบค ชีส ทาร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด ประกอบธุรกิจอาหารประเภทขนมอบ โดยเป็นเจ้าของร้านประเภท Kiosk ภายใต้เครื่องหมายการค้า Bake Cheese Tart , ZakuZaku และ Ringo ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับสัมปทานแต่เพียงผู้เดียวจากผู้ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น มีสาขาภายใต้การบริหารจำนวน 7 สาขา ได้แก่ สาขาเอ็มควอเทียร์ สาขาสนามบินดอนเมือง สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาสยามเซ็นเตอร์ สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ สาขาสิงห์คอมเพล็กซ์ และสาขาไอคอนสยาม ส่วน ZakuZaku มีสาขาภายใต้การบริหารจำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขาสยามเซ็นเตอร์ และสาขาไอคอนสยาม ส่วน Ringo นั้นจะเปิดดำเนินการสาขาแรก ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 โดยแบรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบขนมจากประเทศญี่ปุ่น

โดยมติการซื้อ เบค ชีส ทาร์ต จากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 10/2561 นี้จะนำเสนอเข้าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งจะประชุมในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 นี้ เพื่อขอมติอนุมัติจากผู้ถือ ทั้งนี้ Food Holding จะใช้แหล่งเงินทุนจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าบริษัทฯ จะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนประมาณไม่เกิน 317,000,000 บาท ด้วยวิธีการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการเข้าซื้อหุ้นของ เบค ชีส ทาร์ต กับ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ และวางเงินมัดจำไว้จำนวน 55,000,000 บาท โดยนายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ จะชำระคืนเงินมัดจำให้แก่บริษัทฯ ด้วยการโอนสิทธิการรับเงินค่าซื้อขายหุ้น หรือวิธีการอื่นใดที่บริษัทฯ และนายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ จะตกลงกันต่อไป

ทั้งนี้บริษัทเห็นว่าการเข้าลงทุนในธุรกิจประเภทอาหารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ ได้ทันที และมีราคาซื้อขายหุ้นที่เหมาะสม ทั้งมีความสามารถในการเติบโตสูง ซึ่งหากนำปัจจัยเด่นของบริษัท ทั้งความสามารถในการหาทำเลที่มีศักยภาพมาและความสามารถในการสรรหาแบรนด์ชั้นนำเพื่อนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตในธุรกิจอาหารอย่างมีนัยสำคัญ