หุ้นเอเชียแดงยกแผง! หลังดาวโจนส์ดิ่ง-ขาดความเชื่อมั่นปมการค้า “ทรัมป์-สี จิ้นผิง”

หุ้นเอเชียแดงยกแผง! หลังดาวโจนส์ดิ่งหนักวิตกปมตลาดบอนด์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ (5 ธ.ค.61) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 800 จุดเมื่อคืน  หลังจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และมักบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะตามมา

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 21,919 จุด ลดลง 116.72 จุด, -0.53%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2,651.18 จุด ลดลง 14.54 จุด, -0.55%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 26,800.32 จุด ลดลง 461.91 จุด, -1.67%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 9,908.31 จุด ลดลง 175.23 จุด, -1.74%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงมาอยู่ 2,101.31 จุด ลดลง 13.04 จุด, -0.62%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3,133.53 จุด ลดลง 34.26 จุด, -1.08%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,685.73 จุด ลดลง 9.26 จุด, -0.55%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่เคยออกมาประกาศร่วมกันให้ชัดเจนว่าได้ตกลงกันอะไรไว้บ้างนอกรอบการประชุม G20 เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยรู้เพียงแค่ว่าปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงเห็นพ้องให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อการนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 90 วัน จากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความขู่เมื่อคืนนี้ว่า เขาจะสั่งเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน หากความพยายามในการทำข้อตกลงกับจีนประสบความล้มเหลว

Back to top button