MAJOR ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 15% ตั้งงบลงทุน 800 ลบ.ขยายโรงหนังเพิ่ม 74 แห่ง
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตล …
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า สำหรับในปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 10-15% พร้อมกับวางแผนขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มต่อเนื่องโดยเน้นการเปิดในต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งวางงบลงทุนราว 700-800 ล้านบาทในปี 62 ซึ่งจะทยอยขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 74 โรง ให้ครบเป็น 1,000 โรง ภายในปี 63 ซึ่งการขยายสาขาในประเทศจะเป็นการเปิดในพื้นที่ห้างค้าปลีก เช่น บิ๊กซี และเทสโก้โลตัส ส่วนสาขาในต่างประเทศปัจจุบันมีเปิดให้บริการแล้วในกัมพูชา และสปป.ลาว ส่วนในเมียนมาอยู่ระหว่างการหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการดูทำเลที่เหมาะสม
ส่วนแผนกลยุทธ์ในปี 62 จะผลักดันการฉายภาพยนตร์ไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ผู้ชมมีทางเลือกที่หลากหลาย และเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ซึ่งในปีหน้าจะมีจำนวนภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายราว 320 เรื่อง แบ่งเป็นภาพยนต์ต่างประเทศ 270 เรื่อง และภาพยนตร์ไทย 50 เรื่อง โดยจะมีภาพยนตร์ของค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส ในเครือของบริษัทจำนวน 23 เรื่อง เข้าฉาย ซึ่งคาดหวังรายได้จากภาพยนตร์ทั้ง 13 เรื่อง อยู่ที่ 50-60 ล้านบาท/เรื่อง อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าการพัฒนาระบบแอพพลิเคชั่น On Demand เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชม ตามประเภทอายุและรสนิยมได้มากขึ้น หลังจากที่ได้เปิดทดลองมาเกือบ 1 ปี มีลูกค้าให้การตอบรับที่ดี และมีจำนวนการขายตั๋วในระบบ On Demand โตสูงถึง 50%
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าเน้นการให้บริการกลับกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดประชุม สัมนา หรือเหมาโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นกลุ่มที่ให้มาร์จิ้นที่ดี โดยเฉพาะการจัดสัมนาและการประชุมในโรงภาพยนตร์ ซึ่งในปี 62 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของลูกค้ากลุ่มองค์กรเป็น 10% จากปัจจุบันที่ 5% และยังตั้งเป้าผลักดันการใช้บริการการจองตั๋วชมภาพยนตร์ผ่านแอพพลิเคชั่นออนไลน์ “Major Movie Plus” เพิ่มเป็น 80% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มีลูกค้าใช้บริการเพียง 10%
ทั้งนี้ บริษัทพยายามเพิ่มการให้บริการต่าง ๆ ในแอพพลิเคชั่น เพี่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ของบริษัทแบ่งเป็น 70-80% มาจากการซื้อผ่านตู้ขายตั๋วอัตโนมัติหน้าโรงภาพยนตร์ 10% มาจากการซื้อตั๋วผ่านเคาน์เตอร์ Box Office และอีก 10% มาจากการซื้อตั๋วผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ โดยใน 3 ปี บริษัทต้องการปรับสัดส่วนให้เป็นการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือเป็น 80% การซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ 20% และจะทยอยยกเลิกการซื้อตั๋วผ่านเคาน์เตอร์ Box Office ไปทั้งหมด
ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่น จากการที่มีภาพยนตร์หลายเรื่องทั้งจากฮอลลีวู้ดและไทย มีกระแสนิยมและทำรายได้ได้ดีเข้าฉายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจำนวนมาก และเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค. 61) บริษัทได้เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์แห่งใหม่ คือ “ไอคอน ซีเนคอนิค” (ICON CINECONIC) ที่ไอคอนสยาม เป็นวันแรก มีลูกค้าเข้ามาชมภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก และสามารถขายตั๋วได้สูงที่สุดมากถึง 6,000 ใบ ภายในวันเดียว มากกว่าการขายตั๋วของโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้าน นายวิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการ MAJOR กล่าวว่า โรงภาพยนตร์แห่งใหม่ไอคอน ซีเนคอนิค อยู่บนพื้นที่ 11,062 ตารางเมตร บนชั้น 6-8 ของไอคอนสยาม ประกอบด้วย 13 โรงภาพยนตร์ และ 1 ลิฟวิ่งรูม รวม 2,781 ที่นั่ง และเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกในเครือเมเจอร์ที่ครบทุกระบบไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์วีไอพี, 4DX, Kids Cinema, IMAX และโรงปกติที่ฉายด้วยระบบเลเซอร์ทุกโรง โดยใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงบก่อสร้าง 260 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนด้านไอทีและเทคโนโลยี ซึ่งมีงาการลงทุนที่สูงกว่าพารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมี่อ 13 ปีก่อนที่ไช้งบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท
โดย บริษัทคาดหวังมีจำนวนการขายตั๋วของโรงภาพยนตร์ไอคอน ซีเนคอนิค ทั้งปีรวมเกือบ 2 ล้านใบ ซึ่งใกล้เคียงกับพารากอน ซีนีเพล็กซ์ ที่ทั้งปีขายตั๋วได้ 2 ล้านบาทใบ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงภาพยนตร์ไอคอน ซีเนคอนิค จะเน้นกลุ่มลูกค้าชาวไทย 70% และชาวต่างชาติ 30% ช่วงอายุ 18-35 ปี โดยโรงภาพยนตร์แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแฟล็กซ์ชิฟของมเจอร์ในย่านฝั่งธนบุรี ที่ถือว่าเมเจอร์เป็นผู้ครองตลาดในย่านฝั่งธนบุรีมากที่สุด เพราะมีโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ในฝั่งธนบุรีมากกว่าคู่แข่ง โดยราคาขายตั๋วของไอคอน ซีเนคอนิค จะอยู่ที่ 250-4,000 บาท/ที่นั่ง ซึ่งในโรงภาพยนตร์ลีฟวิ่งรูมลูกค้าสามารถเหมาโรงได้เพื่อทำกิจกรรมหรือชมภาพยนตร์ในราคา 40,000 บาท/รอบ และมีราคาในช่วงโปรโมชั่นที่ 30,000 บาท/รอบ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการฉลองการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ไอคอน ซีเนคอนิค บริษัทได้มอบโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่ทำการซื้อตั๋วผ่านแอพพลิเคชั่น Major Movie Plus ในราคา 120 บาท/ที่นั่ง สำหรับที่นั่งปกติ ทุกเรี่อง ทุกรอบ ตลอดเดือนธ.ค.นี้ จำนวน 50,000 สิทธิ์ และการเปิดโรงภาพยนตร์ดังกล่าวจะทำให้เมเจอร์มีโรงภาพยนตร์ในสิ้นปี 61 รวม 160 สาขา จำนวน 771 โรง 176,435 ที่นั่ง แบ่งเป็น ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 43 สาขา 349 โรง 79,003 ที่นั่ง สาขาในต่างจังหวัด 110 สาขา 385 โรง 89,402 ที่นั่ง และสาขาในต่างประเทศ 7 สาขา 37 โรง 8,030 ที่นั่ง