NPPG บวก 2% มั่นใจผลงานปี62 เทิร์นอะราวด์ รับแผนลดรายจ่าย 20% หนุนรายได้โตแตะ 1.45 พันลบ.

NPPG บวก 2% มั่นใจผลงานปี62 เทิร์นอะราวด์ รับแผนลดรายจ่าย 20% หนุนรายได้โตแตะ 1.45 พันลบ. โดย ณ เวลา 15.52 น. อยู่ที่ 1.30 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.36% สูงสุด 1.32 บาท ต่ำสุดที่ 1.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.43 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPPG ล่าสุด ณ เวลา 15.52 น. อยู่ที่ 1.30 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.36% สูงสุด 1.32 บาท ต่ำสุดที่ 1.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.43 ล้านบาท

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร NPPG เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 62 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าพลิกกลับมามีกำไรสุทธิให้ได้ในปี 62 จากคาดสิ้นปี 61 ยังคงมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ ซึ่งตัวเลข 9 เดือนที่ผ่านมา มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 121.57 ล้านบาท

โดยคาดจะมีกำไรสุทธิตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป และจะทำอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ให้อยู่ในระดับ 5% จากปัจจุบันติดลบอยู่ที่ 13.91% ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการลดค่าใช้จ่ายในทุกภาคส่วน ทั้งค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร (SG&A) ซึ่งตั้งเป้าลดลงราว 10-20% และพิจารณาปิดสาขาร้านอาหารที่ไม่ทำกำไร

รวมถึงการขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกไป ในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-core) เช่น การลงทุนในหุ้น ซึ่งปัจจุบันมีผลขาดทุนอย่างมาก โดยคิดเป็นสัดส่วนของผลขาดทุนรวมที่ 12%

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าจะเติบโต 10-15% หรือเป็น 1,450 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้คาดทำได้กว่า 1,200 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ที่คาดจะเติบโต 12% จากปีนี้คาดมีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท, ธุรกิจอาหารแช่แข็ง คาดเติบโต 20% จากปีนี้คาดมีรายได้อยู่ที่ 356 ล้านบาท และธุรกิจบริการอาหารจานด่วน (QSR) คาดโต 20% จากปีนี้คาดมีรายได้อยู่ที่ 190 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ในช่วงไตรมาส 1/62 บริษัทฯ เตรียมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ทั้งโรงงาน โดยจะใช้งบลงทุนประมาณ 6 ล้านบาท เพื่อทดแทนเครื่องจักรเดิมที่มีอายุเฉลี่ย 15-20 ปี ซึ่งจะดำเนินการขายออกไป คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จได้ภายใน 1 สัปดาห์ และทดลองเดินเครื่องผลิตอีก 3 วัน รวมเป็น 10 วัน ซึ่งจะส่งผลทำให้กำลังการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ตัน/ปี จากเดิมอยู่ที่ 1,200 ตัน/ปี

อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เข้ามาใหม่นี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในประเทศจำนวนมากกว่า 3 ราย โดยบรรลุข้อตกลงแล้วจำนวน 1 ราย ซึ่งมองว่าจะช่วยผลักดันยอดขายและมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า

นอกจากนี้ ธุรกิจอาหารแช่แข็ง ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนยอดขายในประเทศคิดเป็น 80% และต่างประเทศ 20% ซึ่งมีประเทศที่ส่งออกไปแล้ว ได้แก่ ยุโรป ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง โดยในปีหน้า บริษัทฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่ใช้กำลังการผลิตเพียง 60%

ส่วนธุรกิจบริการอาหารจานด่วน (QSR) บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาร้าน A&W เพิ่มอีก 10 สาขา และจะปิดสาขาที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรไป จากสิ้นปีคาดจะมีสาขาอยู่ที่ 40 สาขา เบื้องต้นตั้งงบลงทุนไว้ที่ 3-5 ล้านบาท/สาขา อีกทั้งจะเปิดสาขา Kitchen Plus จำนวน 10 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขา, สาขา DEAN&DELUCA จำนวนไม่เกิน 10 สาขา จากปัจจุบันเปิดแล้ว 2 สาขา ที่ภูเก็ต และร้านอาหารบ้านครัวไทย ที่จะมุ่งเน้นในย่านชุมชน จับตลาดกลาง-ล่าง

นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์บริหารงานใหม่ โดยหนึ่งในกลยุทธ์ คือการบริหารจัดการให้มีความทันสมัยขึ้น ให้เป็นที่เปิดเผยและยอมรับในอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้มีพันธมิตรเข้ามาสนใจบริษัทฯ มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ เจรจากับพันธมิตรหลายราย แต่ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งในลักษณะการเข้ามาถือหุ้นและการขยายธุรกิจใหม่ๆ ด้วยกัน

Back to top button