“พิชญ์” จ่ออุทธรณ์อีกคดี! หลังศาลทรัพย์สินฯสั่ง JAS ชดใช้เจ้าหนี้ 268 ลบ.

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ระบุว่า เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.)  ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้พิพากษา ให้บริษัทชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้สถาบันการเงินอีกหนึ่งราย (ซึ่งเจ้าหนี้สถาบันการเงินดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้ซึ่งรับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากเจ้าหนี้เดิม) เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ประมาณ 188 ล้านบาท และเงินสกุลเยน คิดเป็นเงินไทย ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ประมาณ 80 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา LIBOR และ TIBOR บวกด้วยร้อยละ 4-4.5 ต่อปี (แล้วแต่กรณี) นับแต่วันที่ 18 กันยายน 2545 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ดังกล่าวเสร็จสิ้น

โดยหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ซึ่งได้ถูกปลดหนี้ไปแล้วตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ในปี 2546 แต่เนื่องจากศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการดังกล่าวในปี 2556 เจ้าหนี้ดังกล่าวจึงมาฟ้องร้องบริษัทในภายหลัง

อย่างไรก็ตามบริษัทมีความเห็นแตกต่างกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย บริษัทจึงประสงค์ที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวภายใน 1 เดือนตามกฎหมาย หรือภายในกำหนดระยะเวลาที่ขยายออกไปตามที่ได้รับอนุญาตจากศาล โดยบริษัทอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบของคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว แต่เชื่อว่าคำพิพากษาของศาลดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญฃ

 

อนึ่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561ที่ผ่านมา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศได้นัดฟังคำพิพากษา ตามที่ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เป็นจำเลย เรื่องการให้บริการระหว่างประเทศทางการเงิน

โดยศาลฯได้พิพากษาให้ JAS ชำระเงินต้นบวกดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันฟ้อง เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,200 ล้านเยน และจำนวนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 3.8 ล้านดอลลาร์ฯ

ทั้งนี้ บริษัทเห็นแตกต่างกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฏหมายบริษัทจึงใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวภายใน 1 เดือนตามกฏหมาย หรือภายในกำหนดระยะเวลาที่ขยายออกไปตามที่ได้รับอนุญาตจากศาล