พาราสาวะถีอรชุน
เหมือนตอนจบของนิยายน้ำเน่าที่ผู้สร้างโกยเงินกันสะบัดจากพวกคนดีที่ชอบแนวนี้ยังไงยังงั้น กับคำสารภาพของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องก๋วยจั๊บอร่อยที่ม็อบระบอบสนธิ-จำลองและคั่วกลิ้งอร่อยที่สุดในประเทศไทยที่ม็อบกปปส. พร้อมด้วยการกล่าวหาว่าม็อบเสื้อแดงรับเงิน 300 บาทเพื่อมาร่วมชุมนุม
เหมือนตอนจบของนิยายน้ำเน่าที่ผู้สร้างโกยเงินกันสะบัดจากพวกคนดีที่ชอบแนวนี้ยังไงยังงั้น กับคำสารภาพของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องก๋วยจั๊บอร่อยที่ม็อบระบอบสนธิ-จำลองและคั่วกลิ้งอร่อยที่สุดในประเทศไทยที่ม็อบกปปส. พร้อมด้วยการกล่าวหาว่าม็อบเสื้อแดงรับเงิน 300 บาทเพื่อมาร่วมชุมนุม
กลายเป็นว่าจากเดิมที่พยายามจะอำพรางตัวเองสุดฤทธิ์ว่าข้าคือผู้ผดุงความเป็นธรรม เป็นกลางสำหรับทุกคนทุกฝ่าย แต่พอถึงตอนใกล้จะอวสานก็รีบแสดงตัวว่า แท้ที่จริงแล้วข้าก็เป็นพวกเลือกข้างแบ่งฝ่ายชัดเจน เช่นนี้แล้วองคาพยพที่เหลือของแม่น้ำ 5 สายจะไปเหลืออะไร ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำกันอีกต่อไปว่า ทุกอย่างที่กำลังทำอยู่เพื่อคนไทยทุกคนทุกกลุ่ม
แต่ประสาเนติบริกรที่พลิกพลิ้วได้ตลอดเวลา เชื่อได้เลยว่าเมื่อมีคนไปถามดอกเตอร์ปื๊ดก็จะติ๊ดชึ่งออกลูกแถไปได้แบบน้ำขุ่นๆ แต่คนที่ไม่สนุกด้วยคือ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ที่ออกมาเรียกร้องให้บวรศักดิ์ขอโทษคนเสื้อแดง โดยประกาศกร้าวนี่ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างเสื้อแดงกับคสช. แต่เป็นความไม่พอใจที่มีต่อผู้นำในการร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง
ไม่เพียงเท่านั้นจตุพรยังบอกว่าสิ่งที่บวรศักดิ์พูดออกมานั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะขำขัน แม้แต่ท่านผู้มีอำนาจเองก็คงหัวร่อไม่ออก พฤติกรรมที่ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทำตามที่เล่ามาทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นพวกตลกบริโภคหรือตลกแดกนั่นเอง แล้วเช่นนี้ที่พล่ามมาโดยตลอดเรื่องการยกระดับให้พลเมืองเป็นใหญ่นั้น แท้ที่จริงคงไม่ได้หมายถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ถ้าถอดรหัสตามคำพูดของบวรศักดิ์ นั่นเท่ากับว่า การออกแบบรัฐธรรมนูญที่อ้างเรื่องพลเมืองนั้น ความเป็นจริงก็คือ การทำให้คนชนชั้นกลางบนไปจนถึงชนชั้นสูงได้ปกครองคนชั้นล่างอย่างชอบธรรม แน่นอนว่าวาจาที่ได้หลุดออกมาจากปาก มันไม่ใช่เรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ หากแต่เป็นการเพิ่มช่องว่างระหว่างชนชั้นหนักข้อเข้าไปอีก
เมื่อส่องกล้องมองไปยังการยกหาง 2 ม็อบมีเส้นอย่างเลิศหรู ย่อมอ่านใจคนอย่างบวรศักดิ์ได้ว่า เจตนาเพื่อที่จะขอคะแนนเสียงจากคนเหล่านั้นให้ช่วยออกมาโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญที่ตัวเองพร้อม 35 มหาปราชญ์ลงทุนลงแรงกันเขียนขึ้นมา บนความเชื่อว่า หากชนชั้นกลางบนไปจนถึงชนชั้นสูงไม่ออกมาแสดงพลัง รัฐธรรมนูญฉบับปื๊ดนั้นจะต้องถูกชนชั้นล่างคว่ำเป็นแน่แท้
ส่วนที่มองกันว่า ก่อนจะไปถึงตรงนั้นไม่คิดบ้างหรือว่าในชั้นของสปช.อาจจะมีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญก่อนจะไปถึงกระบวนการลงประชามติก็เป็นได้ เดิมทีโอกาสอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่พอฟังคำพูดของบวรศักดิ์ที่ยอมถอยหลายประการบนเวทีเดียวกันกับที่ดูถูกคนจนแล้ว ต้องยอมรับว่า นี่เป็นการซื้อทางสะดวกเพื่อให้สมาชิกสปช.ยกมือโหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีของจำนวนส.ส.และการยกเลิกระบบโอเพ่นลิสต์ รวมไปถึงกลุ่มการเมือง และยอมปรับเปลี่ยนเรื่องอำนาจหน้าที่ของส.ว. ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นถ้าจำกันได้ ใครกันแน่ที่เที่ยวโพนทะนา หากจะมีการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญต้องข้ามศพคนชื่อบวรศักดิ์ไปก่อน ซึ่งการใส่เกียร์ถอยนั้นคงไม่ใช่เพราะว่าบวรศักดิ์กลัวตาย แต่กลัวขายหน้าอันบอบบางหากร่างรัฐธรรมนูญจะถูกคว่ำมากกว่า
เป็นอันว่าแบไต๋กันมาขนาดนี้แล้ว โอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านทั้งสองด่านนั้นคงมีความเป็นไปได้น้อย เพียงแต่ว่าปุจฉาที่จะตามมาหัวขบวนของแม่น้ำ 5 สาย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะปล่อยให้เป็นไปในลักษณะเช่นนี้หรือ เพราะเมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว การเขียนกฎหมายสูงสุดเช่นนี้โดยที่องค์คณะมีท่าทีแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชัดเจน ก็เท่ากับว่าสิ่งที่ทำอยู่คือระเบิดเวลาดีๆ นี่เอง และเป็นระเบิดลูกมหึมาเสียด้วยที่รอวันจะระเบิดครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปแก้ปมทางการเมือง ดูเหมือนว่าในช่วงนี้บิ๊กตู่คงต้องสาละวนอยู่กับการตอบคำถามในประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้องและมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเสียก่อน เรื่องแรกคือประเด็นเดิม กรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ เผยแพร่กรณีการปักธงแดงให้กับประเทศไทยบนหน้าเว็บไซต์ให้สาธารณะได้รับทราบ
จากการสอบตกเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีคมนาคมเพิ่งแถลงข่าวดีว่าจากการบินไปพบผู้บริหารไอเคโอของ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะราบรื่นไร้ปัญหา แต่คล้อยหลังไม่นานต้องตาลีตาเหลือกมาแถลงแก้ข่าวใหม่
ความจริงจะว่าไปแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรใหม่ เพราะการปักธงแดงนั้นไอเคโอได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ว่าหนนั้นข้อมูลดังกล่าวจะรับรู้เฉพาะกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิกเท่านั้น แต่เมื่อประเทศไทยยังดำเนินการไม่ได้มาตรฐานตามที่เขากำหนด หลังครบกำหนดเวลาจึงได้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับรู้
หลังจากนี้ไอเคโอจะให้โอกาสหน่วยงานของไทยได้ดำเนินการแก้ไขและจะเดินทางเข้ามาตรวจสอบในวันที่ 9 กันยายนนี้ แต่กว่าจะถึงตรงนั้นดูเหมือนว่าผลกระทบที่มีต่อสายการบินจะได้รับไปเต็มๆ โดย จรัมพร โชติกเสถียร ดีดีการบินไทย ถึงกับส่ายหน้าจากเดิมทีเครื่องบินเจ้าจำปีจะถูกสุ่มตรวจแค่เดือนละ 3 ครั้ง แต่ปรากฏว่าเกิดกรณีนี้ในหนึ่งเดือนถูกเรียกตรวจสอบแล้วกว่า 50 ครั้ง
เมื่อเป็นเช่นนี้ภาวะตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจึงร่วงลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ประกอบกับข่าวการพบผู้ป่วยไวรัสเมอร์สในประเทศไทย กลายเป็นสองแรงบวกที่ฉุดดัชนีตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ นี่คือปัจจัยลบที่รัฐบาลได้รับไปเต็มๆ น่าจะเป็นโอกาสอันสำคัญที่บิ๊กตู่จะได้ใช้พิสูจน์ฝีมือทีมเศรษฐกิจ หากภาระทั้งหมดยังตกอยู่ที่ท่านผู้นำแต่เพียงผู้เดียว คงไม่ต้องให้ใครมากดดันกระมังว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยนหรือยัง