ธ.ก.ส.พร้อมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ขยายเวลาชำระหนี้ช่วยเหลือภัยแล้ง

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ ธนาคารได้ให้พนักงานสาขาออกเยี่ยมเยียนดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างใกล้ชิด กรณีการผลิตของเกษตรกรลูกค้าได้รับผลกระทบ ธนาคารจะพิจารณาดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และหรือขยายเวลาชำระหนี้ให้กับพี่น้องเกษตรกรตามสมควรแต่กรณีต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรรายย่อยผ่านระบบ ธ.ก.ส. จนถึงวันที่ 12 มิ.ย.58 จาก 3 โครงการ ดังนี้ (1) โครงการปลดเปลื้องหนี้สิน กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีศักยภาพ หรือมีเหตุผิดปกติ เช่น เสียชีวิต ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง และมีปัญหาสุขภาพจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ผลการดำเนินงาน ได้ดำเนินการสอบทานข้อมูลและตัดจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชี ซึ่งเป็นการปลดเปลื้องหนี้สินให้กับเกษตรกรได้แล้ว จำนวน 2,232 ราย จำนวนต้นเงิน 116 ล้านบาท

(2) โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพต่ำ โดยผ่านการประเมินศักยภาพแล้วปรากฏว่ายังมีความสามารถในการประกอบอาชีพแต่มีปัญหาในการชำระหนี้ที่เกิดจากเหตุสุจริตจำเป็นและเป็นภาระหนัก ผลการดำเนินงาน ธนาคารได้ดำเนินการสอบทานข้อมูลและปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรไปแล้ว จำนวน 53,072 ราย จำนวนต้นเงิน 7,485 ล้านบาท

(3) โครงการปรับขยายระยะเวลาชำระหนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพในการประกอบอาชีพ แต่ได้รับผลกระทบจากการงดทำนาปรัง และราคายางพาราตกต่ำ ผลการดำเนินงาน ได้ดำเนินการขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับรายได้ไปแล้ว จำนวน 240,527 ราย จำนวนต้นเงิน 40,004 ล้านบาท

สรุปรวมผลการดำเนินงานทั้งหมดจาก 3 โครงการ ธ.ก.ส. ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้แล้ว จำนวน 295,831 ราย จำนวนต้นเงิน 47,605 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ 818,000 ราย ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายภายใน เดือนกันยายน 2558

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่เป็นหนี้นอกระบบได้แล้ว จำนวน 34,705 ราย เป็นจำนวนสินเชื่อ 3,257 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรลดภาระค่าใช้จ่ายลงได้จำนวนมาก รวมทั้งเกษตรกรทุกรายยังได้รับการอบรมให้ความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อปรับแนวคิดการดำเนินชีวิตเพิ่มเติมอีกด้วย