DEMCO บวก 4% โบรกฯเชียร์”ซื้อ” เคาะเป้า 6บ. คาดรายได้สดใส หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 2.84 พันลบ.
DEMCO บวก 4% โบรกฯเชียร์"ซื้อ" เคาะเป้า 6บ. คาดรายได้สดใส หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 2.84 พันลบ. โดย ณ เวลา 15.13 น. ราคาอยู่ที่ 2.80 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ 2.82 บาท ต่ำสุดที่ 2.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.53 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO ล่าสุด ณ เวลา 15.13 น. อยู่ที่ 2.80 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ 2.82 บาท ต่ำสุดที่ 2.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.53 ล้านบาท
ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ธ.ค.) แนะนำ “ถือ” DEMCO ราคาเป้าหมาย 6 บาท/หุ้น โดย DEMCO มีกำไรต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 อนึ่ง กำไรสุทธิไตรมาส 3/61 เพิ่มเป็น 63 ลบ. เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันเมื่อไตรมาสก่อน แต่ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน สาเหตุหลักจากรายได้จากขาย&บริการ ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 1,020 ลบ. แบ่งเป็นรายได้จากบริการ 840 ลบ. ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยหลักๆจากการลดลงของรายได้ในงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย+โครงการพลังงานทดแทน
อีกทั้งรายได้จากการขาย 180 ลบ. เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาจากการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ลดลง ขณะที่ต้นทุนขายสูงขึ้น กดดันต่ออัตรากำไรไตรมาส 3/61 โดย GPM=8.4% (ไตรมาส 3/60: 14.8%) 3) SG&A=99 ลบ. เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เพราะมีรายจ่ายพิเศษ (ค่าเสียโอกาสในการผลิตไฟฟ้า) ลดลง 18.18 ลบ.ในไตรมาส 3/61 กำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อไตรมาสก่อน
โดยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก บ.ร่วม&ร่วมค้า (ห้วยบง) เพิ่มขึ้น 243% จากไตรมาสก่อน เป็น 87 ลบ. ทำให้กำไร 9 เดือน 61 เท่ากับ 191 ลบ. เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และสูงกว่ากำไรทั้งปีนี้ที่คาดไว้ 183 ลบ. แต่ยังคงใช้ประมาณการเดิม เนื่องจากไตรมาส 4/61 ยังถูกกดดันจากค่าเสียโอกาสในการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ High season โรงไฟฟ้าพลังลม
ทั้งนี้ Backlog อยู่ที่ 2,842 ลบ.(7 พ.ย.61) แบ่งเป็นภาครัฐ:เอกชน 58%:42% คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/61-ปี 62 (ยังไม่รวมโครงการจัดหา+ก่อสร้างสายส่งแรงสูง 230 kV ให้กับ กฟผ. มูลค่ารวม VAT 404.47 ลบ. ระยะเวลาก่อสร้าง 23 ด.)
รวมทั้งบริษัทยังมีงานใหม่ๆ จากการเปิดประมูลโครงการของภาครัฐ ได้แก่ การประมูลงานติดตั้งสายส่งและสถานีไฟฟ้าย่อยของ กฟผ. มูลค่างาน 1 หมื่นลบ./ปี (ในส่วนของบริษัทเข้าประมูล) จากมูลค่าทั้งหมดราว 2 หมื่นลบ./ปี (ปี 61-65) 2) การประมูลงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ระบบสายส่ง และสถานีไฟฟ้าของ กฟภ. มูลค่า 7 พันลบ./ปี +กฟน. (400-500 ลบ.)
อีกทั้ง งานเสาส่งโทรคมนาคม 300-400 ลบ. พร้อมทั้งการวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน มูลค่า 2,600 ลบ./ปี ซึ่งจะทำให้ Backlog เพิ่มขึ้น หากบริษัทชนะประมูล ส่วนโครงการในกลุ่มประเทศ CLMV คาดจะได้ผลสรุปประมูลงานก่อสร้างสถานีย่อยไฟฟ้า+สายส่งแรงสูง ที่พม่า มูลค่าราว 300 ลบ.ในช่วงครึ่งปีแรก 2562
นอกจากนี้ การซ่อมฐานเสาเลื่อนไปในไตรมาส 1/62: บริษัทได้ปรับปรุงฐานเสากังหันลมห้วยบง เฟส 1 จำนวน 40 ต้น + 15 ต้นในเฟส 2 (จาก 41 ต้น) รวมเป็น 55 ต้นแล้วเสร็จ ส่วนที่เหลือ 26 ต้น ใช้ระยะเวลาซ่อม 4.5 เดือน ปัจจุบัน WEH ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าห้วยบง ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติแบบที่ใช้ในการปรับปรุงฐานเสา จึงทำให้การเริ่มปรับปรุงฐานเสาเลื่อนไปในไตรมาส 1/62 (ก.พ62) จากเดิมคาดไว้ในปีนี้ แต่ผลกระทบไม่มาก เพราะเป็นช่วงที่ผลิตไฟฟ้าต่ำสุดในรอบปี
ขณะที่คดีฟ้องร้องระหว่างผู้ถือหุ้นรายเดิมกับรายใหม่ อาจเป็นอุปสรรคต่อการขายหุ้น IPO ของ WEH และอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อ DEMCO ซึ่งถือหุ้นอยู่ 3.9% (4.2 ล้านหุ้น) ใน WEH
อย่างไรก็ตาม แนะนำ “ถือลงทุน” แม้การขายหุ้น IPO ของ WEH ล่าช้า แต่กำไรปี 61-62 จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงราคาหุ้นไว้ โดยราคาเป้าหมาย 6 บ. โดยอิง P/B=1.3x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 1.6x); 19F BV=4.6 บ.