ตอนขึ้น..อะไรก็ได้โมนิก้าและทีมงาน
*ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ทันทีที่ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,500 จุดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะหยิบฉวยอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด จนชาวหุ้นเกิดความฮึกเหิมว่า เป้าหมายหมายที่ระดับ 1,520 จุดไม่ไกลเกินเอื้อม ยิ่งนักลงทุนต่างชาติ กองทุนในประเทศ และโบรกเกอร์ สามัคคีกันซื้อแบบไม่คิดชีวิต ยิ่งทำให้พรายกระซิบจินตนาการไปไกลกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่านะจะบอกให้
*ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ทันทีที่ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,500 จุดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะหยิบฉวยอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด จนชาวหุ้นเกิดความฮึกเหิมว่า เป้าหมายหมายที่ระดับ 1,520 จุดไม่ไกลเกินเอื้อม ยิ่งนักลงทุนต่างชาติ กองทุนในประเทศ และโบรกเกอร์ สามัคคีกันซื้อแบบไม่คิดชีวิต ยิ่งทำให้พรายกระซิบจินตนาการไปไกลกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่านะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องถามถึงตัวแปรที่จะทำให้ดัชนีวิ่งแบบหูดับตับไหม้ เพราะแค่มองถึงองค์ประกอบเรื่องความมั่นใจเพียงเท่านี้ก็ทำให้นักลงทุนรายย่อยพร้อมจะเข้าไปต่อยอดดัชนี เพื่อให้ขึ้นไปถึงระดับ 1,550 จุดก่อนสิ้นปี 58 ซึ่งเป็นแนวความคิดที่มีหลายองค์ประกอบสนับสนุนให้เป็นเช่นนั้นเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนอ่านเกมรอบนี้ให้ดีๆ เจ้าค่ะ
*เนื่องจากข้อมูลในอดีตฟ้องว่ารายย่อยมักมีอาการละล้าละลังเวลาที่ดัชนียกตัวสูงขึ้น และมักจะเทขายหุ้นตอนที่ยังขยับขึ้นไม่เยอะ ที่สำคัญชอบเข้าไปไล่ซื้อหุ้นอีกครั้งเมื่อใกล้จะถึงยอดเป็นประจำแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนระลึกไว้เสมอว่าอย่าได้หลงไปเล่นเกมคนอื่นเป็นอันขาด เพราะตลาดหุ้นในช่วงขาขึ้นอะไรก็ดีไปหมดทุกอย่าง พวกโลกสวยก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ
*ประเด็นนี้เทียบได้กับพระเอกของวันอย่าง TRUEหลายคนมองความเกินเลยของหุ้นเป็นเรื่องอันตราย แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น วานนี้เลยเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.90บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.50% วอลุ่มเกือบ 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” ฟันธงได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องฟลุคอย่างแน่นอน แต่เป็นเรื่องอุปสงค์มากกว่าอุปทาน หุ้นเลยวิ่งแบบไร้ขีดจำกัดเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ IRPC ได้รับผลบวกทางจิตวิทยาไปด้วยในทันที และดูเหมือนผลพวงดังกล่าวจะเข้าตำรา “ฝนห่าเดียว” เลยทำให้ราคาปิดที่ 4.24 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.50% เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากวันนี้คิดจะเข้าไปตะลุมบอนอีกรอบ เพราะรอบที่แล้วขึ้นมาแตะ 2.80 บาทแล้วหมดรอบเล่น ขณะที่ด่านแรกของการเทขายหุ้นอยู่ที่ 2.50 บาท หากผ่านไปได้ถึงจะมีลุ้นไปยอดเดิมของครั้งที่แล้ว จึงเป็นช็อตที่ต้องคิดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะค่ะ
*ส่วนหุ้นที่ไม่ยอมหมดรอบเล่นง่ายๆ อย่างเช่น AJD เดี๊ยนถือเป็นเรื่องของมุมมองเช่นกัน หากมองในแง่สัญญาณเทคนิคที่ทำ all time new highย่อมเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ แถมวานนี้วิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.13 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่ากว่า 480 ล้านบาท เลยทำให้เชื่อว่าหุ้นจะไปต่อ เพราะตำราเขาเขียนไว้ว่าขึ้นแบบมีวอลุ่ม แถมบรรยากาศลงทุนเป็นใจเสียด้วย อะไรก็ดูดีไปหมด..งานนี้เชื่อหรือไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน…อิอิอิ
*เช่นเดียวกับในรายของ ABC จู่ๆ มีวอลุ่มเคาะหุ้นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำเอานักโหนกระแสตั้งตัวกันแทบไม่ทัน แต่หลังจากนั้นกลายเป็นหุ้นที่มีแรงซื้อเข้ามาตลอดเวลา จนสุดท้ายหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.96บาท บวกไป 0.21บาท หรือขึ้นไป 28% “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่พลิกจากร้ายกลายเป็นดี (เฉพาะพวกเดย์เทรด) ส่วนวันนี้จะดีต่อหรือไม่ ต้องติดตามกันเอาเองนะค่ะ
*ส่วนที่ปลายเริ่มแรงขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ TSEไม่ต้องถามเหตุผลที่ทำให้หุ้นขึ้นแรง เพราะตอนที่หุ้นขึ้นแรง ก็ไม่มีใครถามเหตุผล เลยกลายเป็นหุ้นที่นักเล่นกระโจนใส่เข้าไปก่อน สาระสำคัญของตัวบริษัทไว้ทีหลัง แต่ถ้าดูตามหน้าเสื่อที่เกิดขึ้น สตอรี่ของหุ้นค่อนข้างโดนใจ อัตราการเติบโตของบริษัทเป็นอะไรที่จับต้องได้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท มันเป็นอะไรที่น่าตามไปดูเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ
*ปิดท้ายกันที่หุ้นร้อน WEHซึ่งเป็นเรื่องราวที่คาราคาซังมาระยะหนึ่งกันบ้างดีกว่า เพราะข่าวล่าสุดที่พรายกระซิบแอบไปได้ยินมานั้น มีการสลับหน้าฉากใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือพูดง่ายๆ คงไม่พ้นทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครหลายคนเบือนหน้าหนี เพราะทุกคนรู้ดีว่าหุ้นตัวนี้มีเจ้าของเป็นใคร? ประวัติความเป็นมาออกไปในทางเทาค่อนดำแค่ไหน?
*ตรงจุดนี้แหละที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเข้ามาเผือกเรื่องดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่มีชื่อเขาไปเกี่ยวข้องกลายเป็นกลุ่ม KPNซึ่งคนในวงการต่างรู้ดีว่ากลุ่มนี้ไม่มีความถนัดในการทำธุรกิจไฟฟ้า จู่ๆ เข้ามาเสียบแทนตัวเต็งที่เปิดหน้าให้เห็นแบบนี้ เดี๊ยนมองว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! และมีเบื้องหลังให้คนในวงการตลาดหุ้นต้องคิดหนักอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*ว่ากันว่านอมินีเจ้านี้ไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่ที่ตกลงกันได้เป็นเพราะอะไรบางอย่าง?ดีลเลยดันอย่างรวดเร็ว..คิดดูแล้วกัน เข้ามามาพูดคุยไม่ถึงเดือน เอกสารดูแค่ไม่กี่สัปดาห์ทุกอย่าง say yes! “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่คนด่านหน้าอย่าง ก.ล.ต. ควรจะหัดจำใส่หัวไว้บ้าง! เพราะดีลที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ เขายังคงแผนเอาเข้าตลาดหุ้น เดี๊ยนถึงรู้สึกกลิ่นตุๆ ลอยมาแต่ไกล..จริงเท็จแค่ไหน? ให้คนที่เกี่ยวข้องออกมาพูดเองดีกว่า! ถ้าไม่พูดเดี๊ยนจะแฉเพิ่มเติมเอง..น้องโมเสียอย่าง เผือกได้ทุกเวลาอยู่แล้ว..อิอิอิ