กับดักความเสี่ยง กับ ค่าโง่
ความผันผวนของตลาดหุ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้พอร์ตลงทุนปั่นป่วนไปทั่ว คำถามคือ การหลุดพ้นจากกับดักความเสี่ยง จากบัญชีมาร์จิ้น กับบล็อกเทรดนั้นจะทำอย่างไร
พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล
ความผันผวนของตลาดหุ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้พอร์ตลงทุนปั่นป่วนไปทั่ว คำถามคือ การหลุดพ้นจากกับดักความเสี่ยง จากบัญชีมาร์จิ้น กับบล็อกเทรดนั้นจะทำอย่างไร
คำตอบคือ ทั้งสองเรื่องเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ไม่เชื่อมโยงกันโดยตรง แต่ก็มีลักษณะความเสี่ยงคล้ายกัน
แรกสุดคือ บัญชีมาร์จิ้นใช้ในกรณีหุ้นสามัญหรืออื่น ๆ แต่บล็อกเทรดใช้กับตราสารอนุพันธ์ที่เรียกว่า SSF (Single Stock Futures) ด้วยวิธีการซื้อขายแบบจับคู่ซื้อขาย ที่ราคา (คำนวณโดยสูตรการคำนวณ คือ ราคา Single Stock Futures = ราคาหุ้นอ้างอิง + ดอกเบี้ย – ปันผล) และจำนวนสัญญาที่ตกลงกันไว้ เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอ
ประการต่อไปคือความเสี่ยงที่ต่างกัน เพราะบัญชีมาร์จิ้นและบล็อกเทรดคือการเปิดหน้าต่างให้นักลงทุนได้ซื้อขายเกินเงินหน้าตักของตัวเอง โดยในกรณีหุ้นมาร์จิ้น ใช้ได้ไม่เกิน 80% ของเงินหน้าตัก แต่บล็อกเทรดใช้ได้ 9 เท่าของเงินหน้าตัก ความเสี่ยงอย่างหลังจะสูงกว่า เวลาที่ถูกมาร์จิ้นคอลล์ (เรียกเติมเงินหน้าตัก) เมื่อพอร์ตลดเกิน 5% หรือ ร้ายสุดก็ฟอร์ซเซลล์ จับของเราขายเลย เมื่อหุ้นรายตัวใดลดลงกว่าต้นทุน 30% ถ้ายังไม่พอหน้าตัก ต้องเรียกเพิ่มเงินหน้าตักบวกดอกเบี้ยอีก
ในกรณีของการเล่นหุ้นโดยใช้บัญชีมาร์จิ้น มีข้อสังเกตพึงพิจารณาดังนี้
1.ทุกครั้งที่ตลาดปรับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง นักลงทุนส่วนใหญ่โดยเฉพาะแมงเม่า จะบอกว่ารอบนี้ “ค่อนข้างหนัก” ถึง “ร้องไห้หนักมาก” เพราะมีทางเลือกน้อยเต็มที ระหว่างขาดทุนน้อย กับขาดทุนมาก ๆ
2.โอกาสที่จะทำกำไรยามที่ตลาดขาลงมี 2 วิธี คือ ก) หันไปเล่นเล่นตลาดอนุพันธ์ล่วงหน้าซื้อสัญญาขายชอร์ตที่ SSF ข) เล่น short against portfolio โดยกระทำตอนที่ราคาร่วงครั้งแรก แล้วไปช้อนที่จุดแนวรับต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ ซึ่งไม่ว่าวิธีไหน ล้วนเสี่ยงทั้งสิ้น ถ้าไม่คุ้นเคย เพราะอย่างไรต้องขาดทุนก่อนเสมอ
3.ตลาดหุ้นปกติ ถูกออกแบบมาว่าเป็นตลาดซื้อขายปัจจุบัน การทำกำไรปกติของตลาดหุ้นจึงต้องซื้อถูก แล้วขายแพง ในตลาดขาขึ้น ดังนั้นในยามขาลง การเล่นเกม “ขายแพง เพื่อมาซื้อถูก” จึงสุ่มเสี่ยง เพราะ ก) เราไม่มีทางรู้อนาคตล่วงหน้าไกลเกินกว่า 1 วัน (คนพูดว่ามากกว่า 1 วันคือหมอดู และหมอเดาที่โกหกตอแหล หลอกคนโง่) จึงยากจะบอกว่าเหวตื้น หรือเหวลึก ข) การขายก่อน อาจจะเป็นการ “ขายหมู” ได้ หากว่าหุ้นเกิดรีบาวด์แรงจากปัจจัยที่ไม่ได้คาดเดาล่วงหน้า
4.คำแนะนำให้ใช้ stop-loss order อันเกลื่อนตลาดยามนี้ พูดกันง่าย (คนพูดมักไม่รู้เรื่องหุ้น แต่อวดรู้) แต่ทำยากมาก (เพราะต้องพึ่งใจแต่ละคนมากกว่าปกติ) เพราะกลัวว่าตัดไปแล้วเกิดปรากฏการณ์ “ขายหมู” อยู่เสมอ
5.ในตลาดที่มีคนเล่นหุ้นด้วยบัญชีมาร์จิ้นมาก ยากจะคาดเดาแนวรับที่เหมาะสมในการซื้อได้ เพราะอาจจะเกิดปรากฏการณ์ มาร์จิ้นคอลล์ ที่ทำให้คนเล่นมาร์จิ้นถูกบังคับให้เลือกขายหุ้นเมื่อเริ่มถูกคอลล์ ส่งผลให้สัญญาณเทคนิคเสียหาย หรือ คนที่ถูกคอลล์แล้วไม่ยอมขาย จะถูกจับ ฟอร์ซเซลล์ ได้ ยิ่งทำให้ขาลงแรงขึ้นเรื่อย จนกว่าแรงขายจะหมดหรือดัชนีต่ำมากพอ หรือต่างชาติขนเงินระลอกใหม่เก็บของถูก
6.การทำมาร์จิ้นคอลล์หรือฟอร์ซเซลล์ ทำให้ตลาดไหลลง หาก้นเหวไม่เจอพักใหญ่ เพราะสัญญาณเทคนิคไม่ค่อยทำงาน จนแรงขายหมดหรือเกือบหมด คือ แมงเม่าพากันเจ๊งไปเยอะแล้ว จึงกลับมาล่อแมงเม่ารอบใหม่ ดันหุ้นขึ้นเล่นรอบอีก
ในกรณีบล็อกเทรดนั้น มีข้อสังเกตไว้เช่นกันว่า
1) นอกจากความเสี่ยงเรื่องราคาแล้ว ยังมีความเสี่ยงเรื่องเงื่อนเวลาในการซื้อขาย SSF คือแรงกดดันที่สำคัญกำหนดการกำไรหรือขาดทุนมากหรือน้อย นักลงทุนต้องเข้าใจเงื่อนไขนี้ให้ดี
2) Single Stock Futures (SSF) คือ การซื้อขายสัญญา Futures ของหุ้นอ้างอิง (โดยมากแล้วหุ้นอ้างอิงเหล่านี้มักจะเป็นสมาชิกของ SET50 แล้วบวกเพิ่มเข้าไปกับหุ้น SET100 อีกส่วนหนึ่ง) ที่เราสามารถเลือกซื้อขายแบบเล่นสองขาทั้ง Long-Short โดยใช้เป็นตัวช่วยในการเพิ่มอัตราทดให้พอร์ตการลงทุนของเราได้ แต่การซื้อขาย SSF มีสภาพคล่องน้อย และต้องการความรู้เรื่องหุ้นประกอบด้วย ไม่ใช่แค่ดูสัญญาณเทคนิคอย่างเดียวแบบ SET50 futures
ดังนั้นคำแนะนำประเภท “เล่นหุ้นขาดทุน หนีไปหาบล็อกเทรดดีกว่า” จึงเป็นมายาคติ เพราะจริงแล้วความเสี่ยงมากหรือน้อยมีรายละเอียดต่างกัน
นั่นหมายความว่า การลงทุนที่ชาญฉลาดจากนี้ไปในช่วงเวลาตลาดแปรปรวน ต้องคิดและเตือนสติเสมอว่าการทำกำไร สำคัญน้อยกว่าการลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น
ยามตลาดแปรปรวน ต้องจำไว้ว่า การเล่น “เกมรุก” อย่างเดียว แต่เล่น “เกมรับ” ไม่เป็น มีค่าโง่เพิ่มมากกว่าปกติเสมอ เนื่องจากตลาดหุ้น หรือตลาดเก็งกำไรอื่น มิใช่สนามประลองเพลงดาบของจอมยุทธ์ แต่เป็นการบริหารความโลภและความกลัว