เจ็บไหม ‘ไอ้ทักษิณ’

ยงยุทธ ติยะไพรัช ไปหาเสียงจะพาทักษิณกลับประเทศ ฟังแล้วเป็นเรื่องที่ยังอีกไกล เป็นไปได้ยาก ไม่ต่างจากปากพาไป หรือขายฝันตอนหาเสียง เพราะกระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่พูดเรื่องนี้ ทุกคนรู้ดี ต่อให้ชนะเลือกตั้งถล่มทลายก็ยังทำไม่ได้ ที่บอกจะตั้งโต๊ะพูดคุย ต้องรอให้สังคมสุกงอม มองเห็นว่าวิกฤติ 12 ปีคือความพยายามทำลายประชาธิปไตย โดยใช้ทักษิณเป็นเป้า


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ยงยุทธ ติยะไพรัช ไปหาเสียงจะพาทักษิณกลับประเทศ ฟังแล้วเป็นเรื่องที่ยังอีกไกล เป็นไปได้ยาก ไม่ต่างจากปากพาไป หรือขายฝันตอนหาเสียง เพราะกระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่พูดเรื่องนี้ ทุกคนรู้ดี ต่อให้ชนะเลือกตั้งถล่มทลายก็ยังทำไม่ได้ ที่บอกจะตั้งโต๊ะพูดคุย ต้องรอให้สังคมสุกงอม มองเห็นว่าวิกฤติ 12 ปีคือความพยายามทำลายประชาธิปไตย โดยใช้ทักษิณเป็นเป้า

แต่สื่อคลิกเบทรับใช้เผด็จการ สบช่องปลุกความเกลียดชัง เอาประเด็นนี้มาขยาย จนนักข่าวทำเนียบเอาไปถามตู่ป้อม ซึ่งก็ตอบตามธรรมเนียม ถ้าจะกลับต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เท่านั้นเอง ทักษิณทวิตกลับ #กระบวนการยุติธรรมแบบป้อม ๆ หมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ย้อนศร “นาฬิกาเพื่อน” เข้ากลางอก ส่งคนของตัวเข้าไปนั่งทำเรื่องตัวเองให้เคลียร์ดีกว่าไหม เอาเด็กหน้าห้องออกแล้วให้คนอื่นเข้ามาพิจารณาแทน

เจ็บไหม เจ็บสิ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กัดฟัน “ไอ้ทักษิณ” ไม่คุยไม่ปรองดอง ไม่ใช่น้อง แค่รุ่นน้อง

ไม่ใช่น้องจริง เพราะตั้งท่านเป็น ผบ.ทบ. แล้วก็ย้อน #เกาะโต๊ะ เรียกเสียงหัวเราะทั้งประเทศ

ที่ลำดับเหตุการณ์ให้ดู เพราะต้นเรื่องไม่มีอะไรเลย เหมือนเหล่าพรรค “เพื่อแม้ว” จะโดนกระหน่ำด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ แม้วโคตรคม สวนโครมเดียว ชิงเป็นฝ่ายถล่มให้กระอักไปเลย

จะว่าแม้วคมฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่ ถ้าฝ่ายนี้ไม่มีแผล และเป็นความจริงว่า 12 ปีที่ผ่านมาคือกระบวนการยุติธรรมแบบรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ รัฐประหาร 2 ครั้ง นิรโทษกรรมตัวเองได้หมด ทำอะไรก็ไม่ผิด มิหนำซ้ำ ยังยึดอำนาจตั้งองค์กรอิสระผ่าน สนช.ที่ตัวเองแต่งตั้ง และเป็นทหารร่วมครึ่งสภา

รัฐประหาร 49 ตั้ง คตส. ตั้ง ปปช. กกต. รัฐประหาร 57 อยู่นาน 5 ปี ตั้งเองหมดทั้ง กกต. ปปช. คตง. กสม. โดยอ้างว่าสรรหาผ่าน สนช. (แต่พอไม่ได้ดั่งใจก็คว่ำทั้ง กกต. กสม.) แล้วยังจะตั้ง ส.ว.อยู่ต่อ 5 ปี เพื่อตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระชุดต่อไป

ทีแรก ๆ ยังตั้งไปจัดการทักษิณ ไทยรักไทย พลังประชาชน คนเกลียดชังก็ไชโยโห่ร้อง แต่ทีหลัง ๆ กลายเป็นเข้าเนื้อ เมื่อข้อครหาย้อนหาตัว แล้วประธาน ป.ป.ช.เคยเป็นรองเลขาธิการนายกฯ

บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าแหย่ทักษิณอีก ตราบใดที่ตัวเองมีชนัก และได้รับความยุติธรรมคนละมาตรฐาน

การขุดคดีความทักษิณ หรือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีแต่จะทำให้คนตั้งคำถาม ย้อนไปหาคำตอบ พร้อมเปรียบเทียบกับรัฐบาลปัจจุบัน ที่ใช้อำนาจได้ไม่จำกัดโดยไม่ถูกตรวจสอบ ตัวอย่างเช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่มีข่าว ป.ป.ช.จะเอาผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ก็จะมีคนตั้งคำถามถึงโครงการต่าง ๆ ในรัฐบาลนี้ ที่ไม่สามารถคัดค้านได้ และอาจเสียหายมหาศาล เช่น ม.44 รถไฟจีน 3.5 กม.

คดีความต่าง ๆ ของทักษิณ อันที่จริงช่วงหลัง ๆ สังคมก็ไม่ค่อยสนใจแล้ว เหมือนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ใช่หรือไม่ว่า เห็นกระบวนการยุติธรรมแบบป้อม ๆ จนชาชิน

กระนั้น เมื่อเป็นข่าวครั้งไหน ก็กระทบกันไปหมด แบบคดีแบงก์กรุงไทย ที่ผู้บริหารเพิ่งได้พักโทษ แต่เรื่องทักษิณยังไม่จบ คดีโอ๊คเพิ่งเริ่มต้น ขณะที่ อุตตม สาวนายน ซึ่งถ้าผิด ก็ผิดด้วยกัน เพียงแต่รอดเพราะให้การซัดคนอื่น กลายมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

“ไอ้ทักษิณ” ไม่มีอะไรจะเสียหรอก แต่ไอ้พวกสองมาตรฐาน เข้าตัวทั้งนั้นเลย

 

Back to top button