SCB ร่วมส.อ.ท.ส่งเสริม SME ไทยจัดมหกรรมสุดยอดสินค้าคุณภาพ

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จับมือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสุดยอดสินค้าคุณภาพ ราคาโรงงาน ในราคาสุดพิเศษ “SCB-FTI Factory Outlet" ครั้งที่ 11 ยกขบวนสินค้าคุณภาพจำนวนกว่า 200 บูธ พร้อมส่วนลดสุดพิเศษมากกว่า 40%


นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จับมือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสุดยอดสินค้าคุณภาพ ราคาโรงงาน ในราคาสุดพิเศษ “SCB-FTI Factory Outlet” ครั้งที่ 11 ยกขบวนสินค้าคุณภาพจำนวนกว่า 200 บูธ พร้อมส่วนลดสุดพิเศษมากกว่า 40%

งานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมโอกาสธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ผลิตสินค้าด้วยตนเองและมีสินค้าคุณภาพดี อีกทั้งยังช่วยเหลือผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคามิตรภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าตลอด 5 วัน กว่า18 ล้านบาท โดยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 26 มิถุนายน 2558 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน)

ธนาคารมีความมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า จึงตัดสินใจออกมาตรการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเช่นภาวะปกติ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางการเงินเพื่อใช้ในการทำธุรกิจ การยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านทางงานสัมมนาและโครงการฝึกอบรมต่างๆ

รวมถึงการสนับสนุนทางด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านรูปแบบการจัดงานมหกรรมสินค้า “SCB-FTI Factory Outlet” ซึ่งได้รับการตอบรับการตอบรับจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นทุกๆปี ซึ่งในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 200 ร้านค้า คาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะสามารถกระตุ้นรายได้และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ได้กว่า 18 ล้านบาท จากการขายสินค้าตลอด 5 วัน เพื่อตอกย้ำถึงจุดยืนของธนาคารในการอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ในทุกสถานการณ์

ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นกลไกสำคัญที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยไปกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งปัญหาของ SMEs ประการหนึ่ง คือการขาดแหล่งเงินทุน และการแข่งขันที่สูง จำเป็นต้องมีช่องทางการตลาดในประเทศที่เหมาะสม เพื่อทดแทนการส่งออกในภาวการณ์ส่งออกที่ติดลบ พร้อมทั้งการสร้างแบรนด์ ให้สินค้าเป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ดังนั้น งานแสดงสินค้า SCB – FTI Factory Outlet จึงเป็นกิจกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง ในหลายๆ กิจกรรม ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ กับธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบความเดือดร้อนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และยังเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการจะได้ประชาสัมพันธ์ และเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย อันจะก่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจภายในประเทศมากยิ่งขึ้น งานแสดงสินค้านี้ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปีที่ผ่านๆ มาประสบผลสำเร็จมากขึ้นเป็นลำดับ เป็นงานที่ผู้ซื้อ และผู้ขาย ต่างรอคอยติดตามกำหนดการการจัดงาน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าการจัดงานของเรา ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ขึ้นไปตามลำดับ

การจัดงาน SCB – FTI Factory Outlet ครั้งที่ 11 นี้ได้มีผู้ร่วมออกร้านที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ และสมาชิกสถาบันรหัสสากลสภาอุตสาหกรรมฯ ที่เป็น SMEs ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่างๆ รวมถึงลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่นำสินค้าจากโรงงานมาจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อโดยตรงในราคาที่เป็นถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป

และยังมีมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ซื้อ ผู้บริโภค สามารถทราบรายละเอียดข้อมูลสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่าน Application “SmartBar” ของสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้ใช้งานได้ฟรี เพียงแค่ดาวน์โหลด และสแกนบาร์โค้ดบนสินค้า ข้อมูลสินค้าก็จะแสดงบนมือถือสมาร์ทโฟน โดยมีประโยชน์อย่างมากต่อทั้งเจ้าของสินค้าและผู้บริโภค ซึ่งจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้ โดยข้อมูลสินค้านั้นๆ เป็นข้อมูลจากเจ้าของสินค้าตัวจริง รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เช่น อย. สคบ. ฮาลาล เป็นต้น

นอกจากนั้นยังเป็นช่องทางสื่อสารและประชาสัมพันธ์สินค้าไปยังลูกค้า เป็นการเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้า ทั้งนี้ ทำให้เพิ่มความมั่นใจในการที่จะซื้อสินค้า และเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้บริโภคได้มากขึ้น

Back to top button