ได้เวลาเก็บ TOP
ประเด็นที่น่าสนใจของคำถามเรื่องนี้อยู่ที่การเข้าลงทุนในแต่ละรอบมาจากรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ตัวนักลงทุนมีลักษณะค่อนไปทางนักอ่านสัญญาณเทคนิค จึงชอบดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเป็นกระบวนการทางความคิดที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
ตีแผ่บจ.ดัง
คุณนพดล จาก อ.เมือง จ.ราชบุรี พูดถึงสถานการณ์ของหุ้นโรงกลั่นกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นที่เคยย่ำแย่ ก็กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น ส่วนโรงกลั่นที่ดีอยู่แล้ว ก็ดียิ่งขึ้นไปอีกเช่นกัน โดยเที่ยวนี้ผมค่อนข้างสนใจหุ้น TOP หรือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มากกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ เพราะเป็นหุ้นที่มีไซเคิลขึ้นลงค่อนข้างชัดเจน และเชื่อว่าในปีนี้จะเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากสุดตัวหนึ่ง หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาถึงจุดต่ำสุดครั้งก่อน และเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง จึงอยากให้อาจารย์พูดถึงวัฏจักรของหุ้นตัวนี้สักหน่อยครับ
ประเด็นที่น่าสนใจของคำถามเรื่องนี้อยู่ที่การเข้าลงทุนในแต่ละรอบมาจากรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ตัวนักลงทุนมีลักษณะค่อนไปทางนักอ่านสัญญาณเทคนิค จึงชอบดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเป็นกระบวนการทางความคิดที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
เนื่องจากบอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่า การจับสัญญาณของหุ้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้เรื่องตัวเลขผลประกอบการ และหากทำทั้ง 2 เรื่องควบคู่กันได้ ย่อมทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับเปิดโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น
ที่สำคัญคือ TOP เป็นหุ้นที่มีรูปแบบเหมือนกับที่คุณนพดลคิดไว้พอดี และเมื่อดูจากสัญญาณเทคนิคไปพร้อมกับปัจจัยพื้นฐาน น่าจะเชื่อได้ว่า หุ้นกำลังก่อตัวในทิศทางขาขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งเป็นจังหวะดีของนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว
สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นมาจากตัวเลขกำไรค่อนข้างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ราคาหุ้นกลับอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาเหมาะสมค่อนข้างมาก อีกทั้งผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2561 ทำกำไรต่อหุ้นได้สูงถึง 7.33 บาท (หากคิดแบบง่าย ๆ ไม่ต้องตรงตามหลักการมากนัก พีอีที่ระดับ 10 เท่า ราคาหุ้นก็ควรอยู่แถว 70 บาท) จึงเชื่อว่าจะมีแรงซื้อไหลเข้ามาไล่ราคาหุ้นอีกครั้งนะครับ
เมื่อคิดบนสมมติฐานที่แย่สุดเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของ TOP อาจารย์ย่อมเชื่อว่า ราคาหุ้นไม่ควรลงไปยืนใกล้กับมูลค่าทางบัญชีที่ 62 บาท เพราะมันหมายถึงนักลงทุนจำนวนมากไม่ได้ให้แวลูกับหุ้นตัวนี้เลย จึงปล่อยให้ราคาหุ้นทรุดตัวลงแบบน่าเกลียด
เมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาเชื่อมโยงกับค่า P/E 6.50 เท่า และค่า P/BV 1.10 เท่า ย่อมเป็นจุดที่ทำให้ทุกคนมั่นใจว่า ราคาหุ้นน่าจะไปได้ไกลพอสมควร เพราะตัวแปรหลายอย่างชี้ว่าราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเหมาะสมค่อนข้างเยอะ จึงน่าจะเห็นราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
สรุปคือ วันนี้เราเห็นราคาหุ้น TOP อ่อนตัวลงจากระดับ 100 บาท ลงมาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 62 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมายืนแถว ๆ 70 บาทต้น ๆ น่าจะเป็นโอกาสของการทยอย “เก็บหุ้นดี ราคาถูก” เข้าพอร์ตได้สบาย ๆ และตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่ทรุดตัวลงไปต่ำกว่า 50 เหรียญต่อบาร์เรล ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ
อาจารย์ถึงย้ำแล้วย้ำอีกเป็นประจำว่า นักลงทุนต้องกลับไปพิจารณาการแสดงความคิดเห็นข้างต้นว่ามีความน่าเชื่อถือขนาดไหน ?
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
…