IVL ฮุบบริษัทในตลาดอินเดีย จ่อตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯหลังรวบหุ้นเฉียด 57%

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) IVL ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 ม.ค.62 อนุมัติให้บริษัท Indorama Netherlands B.V. (INBV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม เข้าซื้อหุ้นที่ออกใหม่ของ IRSL จำนวน 83 ล้านหุ้น หรือราว 31.79% คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวม 2,988 ล้านรูปีอินเดีย หรือราว 1,442.31 ล้านบาท ซึ่งคาดวาการเข้าทำรายการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/62

อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้น IRSL ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศอินเดีย (NSE) และตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์ (BSE) ทำให้ INBV จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประเทศอินเดีย (SEBI) โดยจะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นของ IRSL ทั้งหมดที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 25.06% หลังจากได้เพิ่มทุนแล้ว ซึ่งคาดว่ามูลค่าเสนอซื้อหุ้นสูงสุดอยู่ที่ราว 2,356 ล้านรูปีอินเดีย หรือประมาณ 1,137.24 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวทำให้จำนวนเงินทั้งหมดที่ INBV จะนำมาใช้ในการซื้อหุ้นและทำคำเสนอซื้อหุ้น IRSL จะมีมูลค่าสูงสุดอยู่ที่ 5,344 ล้านรูปีอินเดีย หรือราว 2,579.55 ล้านบาท

อนึ่ง IRSL เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นด้ายประเภทต่าง ๆ  โดยมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 605 กิโลตันต่อปี  ขณะที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ นายโอม ปรากาซ โลเฮีย และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวโดยตรง ถือหุ้น 36.32% (หรือประมาณ 22.39% หลังจากได้เพิ่มทุนแล้ว) ,บริษัท Brookgrange Investments Limited  ถือหุ้น 33.29% (หรือประมาณ 20.51% หลังจากได้เพิ่มทุนแล้ว) โดยบริษัท Brookgrange Investments Limited มีนายอาลก โลเฮีย และนายยาโชวาดัน โลเฮีย บุตรชายของ นายอาลก โลเฮีย เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด และนายอาลก โลเฮีย และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวโดยตรง ยังถือหุ้นใน IRSL รวมกันอีกประมาณ 0.412% (หรือประมาณ 0.25% หลังจากได้เพิ่มทุนแล้ว) ซึ่งหลังเพิ่มทุนจะทำให้ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 กลุ่มเดิมนี้ มีสัดส่วนถือหุ้นใน IRSL รวมกันอยู่ที่ 43.15%

สำหรับแหล่งเงินลงทุนของ INBV ในการเข้าซื้อหุ้น IRSL จะมาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัท และวงเงินสินเชื่อที่ไม่ได้เบิกใช้จากสถาบันการเงินต่างๆ   ขณะที่การลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้ไอวีแอลสามารถก้าวเข้าไปในตลาดที่มีศักยภาพสูงในประเทศอินเดียในทันที เนื่องจากประเทศอินเดียมีการเติบโตของการใช้ผลิตภัณฑ์เส้นใย โพลีเอสเตอร์ อีกทั้ง เป็นการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของประเทศที่มีประชากรมากถึง 1.2 พันล้านคน