AMATA เชื่อยอดขายที่ดินครึ่งปีหลังหวือหวากว่าครึ่งปีแรก
AMATA เชื่อยอดขายที่ดินครึ่งปีหลังหวือหวากว่าครึ่งปีแรก พร้อมคาดในปีนี้รายได้จากการขายที่ดินจะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 5,347 ล้านบาท หรือมีโอกาสเติบโตราว 3% แม้ว่าจำนวนยอดขายอาจจะทรงตัวที่ราว 1,000 ไร่ เนื่องจากมีการปรับราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้รายได้จากการขายที่ดินจะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 5,347 ล้านบาท หรือมีโอกาสเติบโตราว 3% แม้ว่าจำนวนยอดขายอาจจะทรงตัวที่ราว 1,000 ไร่ เนื่องจากมีการปรับราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น
สำหรับครึ่งปีแรกรายได้จากการขายที่ดินก็น่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาที่ดินที่ปรับขึ้น ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของการขายที่ดินว่าเป็นการขายที่ดินในนิคมฯอมตะนครหรือนิคมฯอมตะซิตี้ ซึ่งราคาขายจะไม่เท่ากัน โดยที่ดินในอมตะนครราคาอยู่ที่กว่า 7 ล้านบาท/ไร่ ขณะที่อมตะซิตี้ราคาขายอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาท/ไร่ แต่ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากการขายที่ดินในอมตะซิตี้ราว 60% อมตะนคร 40%
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 58 บริษัทมียอดขายที่ดินที่เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้วราว 300-400 ไร่ จากเป้ามายทั้งปีกว่า 1,000 ไร่ใกล้เคียงปี 57 แต่เชื่อว่ายอดขายที่ดินครึ่งปีหลังจะหวือหวากว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นตามปกติในช่วงไตรมาส 3-4 ของทุกปีที่มักจะมียอดขายที่ดินจะสูงกว่าไตรมาส 1-2
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกลุ่มอมตะฯมีที่ดินในมืออีกราว 13,000-14,000 ไร่ เป็นที่ดินในอมตะซิตี้ 4,000-5,000 ไร่ อมตะนคร 8,000-,9000 ไร่ เพียงพอในการพัฒนาเพื่อขายให้กับลูกค้าอีก 3-5 ปี
“การจะมองหาซื้อที่ดินเพิ่ม ดูภาวะในการซื้อเพิ่มตอนนี้มีเหลือขาย 13-1.4 หมื่นไร่ มากพอที่จะขายอีก 3-5 ปีนี้แทบไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องนี้เลย โดยจะมาดูอีกทีก็ปี 2018-2019 ซึ่งใน 3-5 ปีนี้ก็สบายๆ” นายวิบูลย์ กล่าว