สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวัน กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดี 25 มิถุนายน 2558 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,518.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 15.03 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.2 หมื่นล้านบาท


หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวัน กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ  ฉบับประจำวันพฤหัสบดี 25 มิถุนายน 2558 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,518.26 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 15.03 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.2 หมื่นล้านบาท

* เมื่อวานรายย่อยเป็นขาเดียวที่ถล่มหนัก ด้วยการขายสุทธิ 3,255 ล้านบาท ส่วนฝั่งเข้าซื้อมี 3 ประสาน เริ่มจาก บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 1,151 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน 1,076 ล้านบาท และต่างชาติ 1,027 ล้านบาท * สำหรับรายย่อยที่เลือกบทเทขายสุทธิ ที่จริงแล้วนิวส์เวฟมองเป็นเรื่องดีนะ เพราะในยามที่ภาวะตลาดหุ้นไทยกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น นี่คือจังหวะให้นักลงทุนได้เทขายรับกำไร (กันบ้าง)

* ที่สำคัญในยามที่ภาวะตลาดยังผันผวน การปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ หรือ มีจังหวะก็ต้องขายทำกำไร นี่ถือเป็นสิ่งที่ควรต้องดำเนินการ สำหรับในวันนี้แนะนำให้ติดตามปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เพราะดูแล้วยังมีหลายเรื่องที่จะส่งผลต่อภาพรวมของพี่ SET พอควร

* เอาละเริ่มกันด้วยสองหุ้นใหญ่ PTT-RATCH เพราะประกาศข่าวดีชิ้นใหญ่ ด้วยการประกาศเซ็น MOU รวมกันถึง 3 ฉบับเลยทีเดียว

* สำหรับเนื้อหาสาระสำคัญ คือ การที่ทั้งสองฝ่ายร่วมขยายตลาดธุรกิจพลังงานแบบเต็มสูบในย่านอาเซียนนั่นเอง ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรพลิกไปอ่านกันได้ในฉบับ โดยถือเป็นปัจจัยบวกชิ้นสำคัญที่หลายฝ่ายต้องจับตาและให้น้ำหนักอย่างแน่นอน

* อีกหนึ่งหุ้นที่น่าสนใจขอเลือก ADVANC ซึ่งแม้ในช่วงไตรมาส 2 จะเป็นโลว์ซีซั่นธุรกิจของหุ้นสื่อสาร แต่ทาง ADVANC ยังมีลุ้นโอกาสฟาดกำไรทะลุ 9 พันล้านบาท เท่ากับเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7%

* ดังนั้น งวดครึ่งปีแรกนี่เท่ากับ ADVANC น่าจะฟาดกำไรไปได้เฉียดระดับ 2 หมื่นล้านบาท และน่าจะส่งผลให้เงินปันผลงวดครึ่งปีแรกออกมาสดใสไม่เบา ที่สำคัญเหมือนตลาดจะมองข้ามกันไปกับอัพไซด์ที่ซ่อนอยู่อย่างประเด็น 4G ดังนั้น ราคาหุ้นในปัจจุบันยังถือเป็นจุดที่เข้าสะสมได้

* ต่อกันด้วยหุ้น JAS วันนี้ ขอย้ำเตือนให้นักลงทุนได้รับรู้ เพราะมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XW เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากใครเข้าซื้อจะไม่มีสิทธิได้รับวอร์แรนต์อย่างแน่นอน

* ขณะที่บอร์ดบริหาร JAS ประกาศคอนเฟิร์มเป็นทางการ เพราะหุ้นที่ซื้อคืนล่าสุด 142 ล้านหุ้น จะนำไปลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืน ถามว่าผลดีที่ผู้ถือหุ้น JAS จะได้เป็นอะไร คำตอบก็คือเงินปันผลในอนาคตจะมีโอกาสได้สูงขึ้นนั่นเอง

* หุ้น IRPC เมื่อวานวิ่งบวกแรงสนั่น ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปกว่า 6% ทำราคาปิดอยู่ที่ 4.50 บาท แต่รอบนี้ขอย้ำให้นักลงทุนชิงจังหวะ “ขายทำกำไร” ไปก่อน เพราะจากราคาปิดบวกรอบล่าสุด เท่ากับช่วงสัปดาห์นี้หุ้น IRPC เพิ่มขึ้นเฉียด 9% ไปแล้ว ขอย้ำให้ขายไปก่อนแล้วค่อยทยอยเข้ารับช่วงอ่อนตัวกันใหม่

*  อีกรายที่มาแปลก คือ APCS เมื่อวานมีบิ๊กล็อตออกมารวมทั้งสิ้น 4 ราย ยอดรวมทั้งหมด 70 ล้านหุ้น ในราคา 3.12 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท

* ท่าทาง APCS คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่แน่นอน เพราะยอดบิ๊กล็อตรวม 70 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 20% เมื่อเทียบกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรนั้น คงต้องจับตาดูกันต่อไป

* ปิดท้ายด้วย 2 หุ้นเด่นจากตลาด mai รายแรก FPI ซึ่งแม้ตลาดยานยนต์ในประเทศจะชะลอตัวหนัก แต่ในเชิงพื้นฐาน  FPI ยังรักษาการเติบโตแบบสวนกระแสได้ต่อเนื่อง เพราะอย่าลืมยอดขายทั้งหมดอยู่ในต่างประเทศมากกว่า 80% นั่นเอง

* ส่วนอีกเจ้าเลือก EA ราคาถอยกลับมาต่ำระดับ 24 บาท นับเป็นจุดที่นักลงทุนเข้าสะสมได้เช่นกัน เพราะในเชิงระยะสั้นก็มีข่าวดีอย่างงบไตรมาส 2 ที่เติบโตแบบทะลัก หรือจะถือแบบระยะยาวก็น่าสนใจไม่เบา ที่สำคัญราคาหุ้นยังมีอัพไซด์อีกบาน เนื่องจากต่ำกว่าราคาเป้าหมาย 30 บาทอยู่เพียบ เลยอยากฝากไว้ให้นักลงทุนพิจารณากันดู

Back to top button