ดอลล์อ่อนค่าขณะจีดีพีสหรัฐยังหดตัว
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้กรีซที่จะยังไม่ได้ข้อสรุป
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1202 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1169 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5699 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5715 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.84 เยน จาก 123.96 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9343 ฟรังก์ จาก 0.9352 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7707 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7729 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายสำหรับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หดตัวลง 0.2% ซึ่งแม้ว่าดีขึ้นจากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าหดตัวลง 0.7% แต่นับเป็นไตรมาสที่ 5 ในรอบ 6 ปี ที่เศรษฐกิจไม่สามารถขยายตัวถึง 1% ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ดอลลาร์มีความแข็งแกร่ง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสในช่วงก่อนหน้านี้ได้หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดต่างก็ยังคงรอดูข้อสรุปในการหารือระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อที่จะหาทางออกในปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากที่นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า การประชุมยูโรกรุ๊ปที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับข้อเสนอของกรีซ โดยยูโรกรุ๊ปจะเดินหน้าหารือกันต่อในวันนี้ ขณะเดียวกัน กรีซเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะต้องชำระคืนเงินงวดราว 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงสิ้นดือนนี้