เปิดโผหุ้นกลุ่ม SET พุ่งแรงเดือน ม.ค. 62

ด้วยดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนมกราคม 2562 เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up ชัดเจน โดยวันสุดท้ายของเดือน 31 มกราคม 2562 ดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,641.73 จุด เป็นการไต่ระดับมาจากเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ที่ดัชนีปิดระดับ 1,563.88 จุด ทำให้ดัชนีปรับขึ้น 77.85 จุด หรือ 4.98%


เปิดโผหุ้นกลุ่ม SET พุ่งแรงเดือน ม.ค. 62

ด้วยดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนมกราคม 2562 เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up ชัดเจน โดยวันสุดท้ายของเดือน 31 มกราคม 2562 ดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,641.73 จุด เป็นการไต่ระดับมาจากเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ที่ดัชนีปิดระดับ 1,563.88 จุด ทำให้ดัชนีปรับขึ้น 77.85 จุด หรือ 4.98%

การปรับตัวขึ้นที่ชัดเจนของดัชนีช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา เกิดจากแรงผลักดันในการเข้าเก็งกำไรกระจายไปยังกลุ่มขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หลังจากหลาย ๆ ตัวราคาหุ้นเข้าเขต Oversold มากเกินไปนั่นเอง

ประกอบกับเรื่องปัจจัยภายในประเทศคลี่คลาย โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกตั้งได้กำหนดชัดเจนขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 อีกทั้งกระแสเงินทยอยไหลเข้าอย่างต่อเนื่องโดยตลอดทั้งเดือนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,721.64 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 10,031.44 ล้านบาท

นับเป็นการเข้าเก็บของของนักลงทุนต่างชาติที่ได้เทขายออกมาเยอะในช่วงปี 2561 แต่ในทางกลับกันเป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อยได้ปล่อยของ เพราะตลอดทั้งเดือนขายสุทธิ 15,449.04 ล้านบาท รวมถึงโบรกเกอร์ขายสุทธิ 1,304.04 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี แรงซื้อเข้ามาในหุ้นรายตัวช่วงเดือนมกราคมทำให้เห็นราคาหุ้นที่อยู่ในช่วงเขต Oversold และราคาที่เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ มาต่อเนื่องนั้น กลับฟื้นตัวและเด้งแรง ตัวอย่างที่ทางข่าวหุ้นรวบรวมมา โดยยกมาจากหุ้นในกลุ่ม SET ปรับตัวขึ้นกว่า 20% อาทิ DIGI, NOBLE, PK, JMART, FANCY, THCOM, DDD, TSI, CPT, SAPPE, TFI, KKC, ASIAN, CBG, VPO, AMANAH, BFIT, SGP, SAT, VNT, CCP, ALT, PTG, GFPT, BWG และ MALEE เป็นต้น ซึ่งหุ้นดังกล่าวมักไม่ค่อยเห็นปรับตัวขึ้นแรง

สถานการณ์ราคาหุ้นที่เปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ บริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 0.21 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 31 ม.ค.62 ที่ระดับ 0.35 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 66.67% สาเหตุมาจากมีการซื้อบิ๊กล็อตของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่สำคัญบริษัทยังคงมีนโยบายที่จะดำเนินธุรกิจเดิมทั้ง 2 ส่วนงานธุรกิจ คือ 1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและเพื่อให้เช่า โดยมุ่งเน้นลงทุนในโครงการที่มีพื้นฐานรายได้ที่แน่นอน มีประวัติการดำเนินงานที่ดีในอดีต เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้บริษัทได้ในระยะยาว

และ 2) ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce business) ซึ่งเน้นการสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์บริษัท การให้บริการชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และเป็นตัวแทนรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งบริษัทยังมีแผนที่จะหาโอกาสในการลงทุนและขยายธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไปด้วย

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 14.20 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 31 ม.ค.62 ที่ระดับ 20.40 บาท บวกไป 6.20 บาท หรือขึ้นไป 43.66% เป็นการไล่ราคาหลังจากที่สัญญาณเทคนิคเป็นช่วงขาขึ้น

บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) หรือ PK โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 2.08 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 31 ม.ค.62 ที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.74 บาท หรือขึ้นไป 35.58% โดยการปรับตัวของราคาหุ้นเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังจากที่ราคาหุ้นวิ่งผ่านสัญญาณเทคนิคขึ้น

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 4.74 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 31 ม.ค.62 ที่ระดับ 6.40 บาท บวกไป 1.66 บาท หรือขึ้นไป 35.02% ด้วยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเป็นการเก็งกำไรจากนักวิเคราะห์แนะนำเป็นหุ้น Laggard

ส่วนรายละเอียดตัวเลขของราคาหุ้นที่เหลือดูได้จากตารางประกอบ

สรุปได้ว่าหุ้นดังกล่าวเป็นเพียงราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงช่วงเดือนมกราคมเท่านั้น ซึ่งช่วงต่อไปอาจเห็นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อจากมีปัจจัยสนับสนุน!!!

Back to top button