ได้ทียุบพรรคปิดสื่อ ?
กกต.จ่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ กสทช.สั่งปิด Voice TV 15 วัน 2 องค์กรมีมติวันเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย แต่ กสทช.ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นใบสั่ง คสช.
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
กกต.จ่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ กสทช.สั่งปิด Voice TV 15 วัน 2 องค์กรมีมติวันเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย แต่ กสทช.ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นใบสั่ง คสช.
ถึงไม่ได้เป็นใบสั่งก็ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 37 ประกอบประกาศคณะรัฐประหารฉบับที่ 97, 103 แถมมีคำสั่ง คสช.ที่ 41/2559 ให้อำนาจ กสทช.ใช้ดุลพินิจลงโทษสื่อโดยไม่ต้องรับผิด
แล้ว คสช.ก็หลบตัวเองไปเป็นผู้ร้องเรียนว่าสื่อทำผิด แบบเดียวกับ คสช.เป็นเจ้าทุกข์ ไปแจ้งตำรวจให้จับคนอยากเลือกตั้ง ฐานขัดคำสั่ง คสช. เป็นภัยต่อความมั่นคง
พูดไปก็จะว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง แต่คนวงนอกวงในย่อมสงสัย ทำไมมาปิดช่วงเลือกตั้ง ทั้งที่อำนาจกว้างขวาง ตั้งข้อหาไว้เป็นหางว่าว จะสั่งปิดเมื่อไหร่ก็ได้ ซ้ำยังบังเอิญ เป็นช่วงปลุกความเกลียดชังทักษิณ จากกรณีแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยรักษาชาติ แม้ กสทช.ไม่ได้อ้างความเกี่ยวพัน แต่คอการเมืองที่เห็นอภินิหารทางกฎหมายมาเยอะ ก็จะสงสัยอยู่ดี ว่าฉวยจังหวะบดขยี้หรือเปล่า
จำคำพูด อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ได้ไหม ถ้าท่านผู้นำไม่ถอนตัว “การเลือกตั้งถ้ามีปัญหาข้อสงสัยเรื่องความไม่เที่ยงธรรมขึ้นมา ต่อให้ไม่เกี่ยวกับ คสช. แต่คนก็จะมาลงที่ คสช.แน่ เพราะ คสช. ได้กลายเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผลการเลือกตั้งไปเสียแล้ว”
การยุบพรรคของ กกต. แม้ต่อมามีคำชี้แจงว่า ยังพิจารณาไม่เสร็จ ก็ถูกตั้งข้อสงสัย เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ไหนได้ เปลี่ยนใจข้ามวัน เห็นว่าหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอแล้ว
ในข้อกฎหมาย พรรค ทษช.ผิดหรือไม่เป็นประเด็นหนึ่ง เพราะคณะกรรมการบริหารคงเตรียมต่อสู้คดีว่า เข้าใจว่ากระทำได้โดยสุจริต ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อมีพระราชโองการก็น้อมรับ และเป็นเพียงการเสนอชื่อ ซึ่งเมื่อ กกต.ไม่ประกาศ ก็เสมือนการกระทำเป็นโมฆะ แล้วจะผิดได้อย่างไร
แต่ประเด็นใหญ่กว่านั้นคือ ไม่เคยมีการยุบพรรคระหว่างเลือกตั้ง แม้ยังไม่แน่ชัดว่ากระบวนพิจารณาจะใช้เวลาเท่าใด ถ้าศาลสั่งยุบพรรคหลังเลือกตั้ง ผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ก็ย้ายพรรคได้ เว้นแต่กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ แต่หากศาลสั่งยุบพรรคก่อน 24 มี.ค. จะวินิจฉัยอย่างไร เพื่อให้ความยุติธรรมกับผู้สมัครทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ 200 กว่าคน ที่ต่อให้กรรมการบริหารผิด พวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องรู้เห็น กลับต้องเสียสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งที่ลงทุนลงแรงไปแล้วหรืออย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นยังกระทบสิทธิของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่สามารถเลือกคนที่ต้องการ
นี่จะเป็นคำถามตัวโต ๆ ที่ศาลต้องรับไป แม้ศาลรัฐธรรมนูญยุคนี้วิจารณ์ไม่ได้
ในทางการเมืองเรื่องน่าขันคือหลายคนคิดว่า ยุบพรรคปิดสื่อจะทำให้ฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจเพลี่ยงพล้ำ ฝ่ายต้านทักษิณได้เปรียบ เช่น บางคนเพ้อว่า ยุบ ทษช. จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย มีแต้มต่อพรรคเพื่อไทยอยู่ร้อยกว่าเขต
ซึ่งตรงข้ามเลย ยุบ ทษช. คนที่ไม่พอใจก็มีทางเลือกเยอะไป เพื่อชาติ ประชาชาติ เสรีรวมไทย หรืออนาคตใหม่ที่กำลังมาแรง
ซ้ำร้าย ยังปลุกกระแสต้าน ปลุกความไม่พอใจขึ้นใหม่ คนรักประชาธิปไตยที่ไม่เห็นด้วยกับ ทษช. ไม่พอใจแม้ว จะกลับไปรวมตัวกัน ค้านยุบพรรคปิดสื่อ และต้านการสืบทอดอำนาจอย่างเหนียวแน่น