KTAM ปลื้มกองทุนเทอมฟันด์โตต่อเนื่องเดินหน้าเปิดขายKTFFE18 อายุ 6 เดือน

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลตอบรับที่ดี จากนักลงทุน ในการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประเภทกำหนดอายุโครงการ นับตั้งแต่ต้นปี บริษัทมีการเปิดจำหน่ายกองทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 70,000 ล้านบาท และหลายกองทุนที่จำหน่ายได้เต็มมูลค่าโครงการ

ในสัปดาห์นี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 18 ( KTFFE18 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ทั้ง100 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งประกอบด้วย Medium Term Note ( MTN ) ที่ออกโดย Banco ABC Brasil , Banco BTG Pactual S.A. , Banco Santander ( Brasil ) S.A. , Turkiye IS Bankasi A.S. และ Turkiye Vakiflar Bankasi TAO ผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี

โดย MTN เป็นตราสารการเงินที่ออกจำหน่ายระหว่างประเทศ ( Global Note ) ในสกุลเงินหลัก เช่น USD , EUR ,GBP และ AUD ไม่จำเป็นต้องเป็นสกุลเงินเดียวกับประเทศผู้ออก และสามารถทยอยออกจำหน่ายได้ในวงเงินที่กำหนดขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ออก และผู้ลงทุน โดย MTN มักจะจ่ายผลตอบแทนเป็น Coupon มีอายุตราสารประมาณ 1-5 ปี

สำหรับ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อกลับของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จากกระแส Risk-off sentiment จากความวิตกกังวลของตลาดเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซที่ไม่มีความคืบหน้า จึงหันมาลงทุนในพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps. อยู่ที่ 1.47% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. อยู่ที่ 2.36% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 11 bps.อยู่ที่ 2.94% ต่อปี

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อกลับจากกระแส Risk-off sentiment จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ และการที่เฟด ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฟด ยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายแม้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วโดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 9 bps. อยู่ที่ 0.65% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 16 bps. อยู่ที่ 1.59% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 13 bps.อยู่ที่ 2.26% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ยังคงเป็นความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีหนี้กรีซที่อาจทำให้ยังคงมี Risk off sentiment กลับมาซื้อ Bond ในบางช่วง