กระทิงบ้าชั่วคราวที่จีน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตหรือ SSEC ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ พุ่งจากระดับ 2,600 จุด ขึ้นมาเกือบ 400 จุด เพราะขานรับทรัมป์เตรียมเลื่อนเส้นตายสงครามการค้า ยิ่งเมื่อวานนี้ยิ่งพุ่งแรงสู่ภาวะกระทิงเต็มตัว
พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตหรือ SSEC ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ พุ่งจากระดับ 2,600 จุด ขึ้นมาเกือบ 400 จุด เพราะขานรับทรัมป์เตรียมเลื่อนเส้นตายสงครามการค้า ยิ่งเมื่อวานนี้ยิ่งพุ่งแรงสู่ภาวะกระทิงเต็มตัว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์วานนี้ว่า สหรัฐฯ จะเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไป จากเดิมที่กำหนดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนมีความคืบหน้าในประเด็นสำคัญ ซึ่งรวมถึงประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
ผลของภาวะกระทิงในตลาดเซี่ยงไฮ้ ทำให้ตลาดหุ้นที่เคยให้ผลตอบแทนการลงทุนเลวร้ายสุดในเอเชีย กลายเป็นตลาดหัวหอกที่ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียอื่น ๆ เกิดภาวะ breaking out ไล่เลี่ยกันรวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย
คำถามคือ ภาวะกระทิงที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเอเชียเที่ยวนี้ จะยั่งยืนยาวนานแค่ไหน
คำตอบคือไม่ทราบ
เหตุเพราะปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้พุ่งแรงยามนี้ มีปัจจัยเสี่ยงแทรกอยู่ด้วย
ที่สำคัญยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญคือ 3,000 จุด อันเป็นแนวจิตวิทยาสำคัญมาก
เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุกระทิงเปลี่ยวทำนองเดียวกันนี้ ยาวนานถึง 7 เดือน ทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เกิดฟองสบู่ จนต่อมาฟองสบู่แตก ทำให้เกิดวิกฤติเป็นเหตุให้ธนาคารกลางจีนต้องล้างผลาญทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อแก้วิกฤติ แต่ก็ประคองตัวได้แค่ดัชนีวิ่งรอบ ๆ 3,000 จุด
ครั้งนั้นเหตุเกิดระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2557-เดือนพฤษภาคม 2558 เป็นตำนานที่ต้องจดจำกัน
ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ได้ชื่อว่าร้อนแรงมากที่สุดในเอเชีย วิ่งจากระดับเริ่มต้น 2,500 จุด ไม่หยุดยั้ง จนทะลุขึ้นไปถึง 5,000 จุด ในช่วงเวลาดังกล่าว บรรดากองทุนต่างชาติพากันเข้าไปกอบโกยกำไรกลับมาหลายรอบ ความร้อนแรงช่วงนั้นทำให้มีการเร่งระดมทุนจากการออกหุ้น IPO ใหม่เฉลี่ยวันละ 2 รายในตลาด เป็นยุคทองสั้น ๆ
ผลพวงที่ตามมาคือ มีความร้อนแรงชนิดไม่คาดฝันของตลาดหุ้นฮ่องกงตามไปด้วยเป็นผลข้างเคียง เป็นผลพวงที่เกินคาดของนโยบายของผู้บริหารตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นฮ่องกงยามนั้น ที่เชื่อมโยงการซื้อขายของสองตลาด (Hongkong-Shanghai trading link) มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557
ตามแผนการดังกล่าว การเชื่อมโยงให้การซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นทั้งสอง มีปลายอยู่ที่การผนวกให้กลายเป็นตลาดเดียวกันในระยะต่อไป เพื่อรองรับการเปิดเสรีค้าหุ้นในรูปของเงินหยวน ซึ่งท้ายที่สุดก็จะทำให้เงินหยวนกลายเป็นเงินสกุลหลักของตลาดหุ้นโดยปริยาย
ในทางทฤษฎีช่วงนี้ แน่นอน หากมองว่าตลาดหุ้นฮ่องกงมีมูลค่าการตลาดและมูลค่าซื้อขายประจำวัน ในระดับ 1-5 ของตลาดหุ้นใหญ่ของโลกแล้ว นี่คือจังหวะก้าวที่จีนสามารถบริหารทุนยุคใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
การเชื่อมโยงตลาดทุนของฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้เข้าด้วยกัน สอดรับกับข้อมูลสำรวจโดย BIS ที่พบว่า กระแสหมุนเวียนของเงินหยวนในตลาดเงินโลกปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำมาก เมื่อเทียบกับสกุลเงินสากลอื่น ๆ แต่มีอัตราการเติบโต เพราะหุ้นกู้หรือบอนด์ในตลาดโลก ที่อ้างอิงสกุลเงินหยวนเป็นค่ากลางแลกเปลี่ยน ในปี 2556 มีมูลค่าประมาณ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.2 แสนล้านหยวน
ในปีก่อนหน้านั้น จีนได้ผ่อนคลายข้อกำหนดให้เปิดตลาดทุนให้กองทุนรวมหลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ตั้งกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ (FIF-Foreign Investment Fund) ซึ่งอ้างอิงกับค่าเงินหยวน และบริษัทค้าเงินตราระหว่างประเทศหลายแห่ง ก็เริ่มทดลองออกแบบสร้างตลาดตราสารอนุพันธ์ค่าเงินหยวน (yuan derivatives) ตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ยามนั้น นักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” เคยประเมินว่า การเชื่อมโยงตลาดหุ้นฮ่องกงกับเซี่ยงไฮ้ จะทำให้ปริมาณเงินหมุนเวียนของทุนเก็งกำไรในตลาดหุ้นทั้งสองแห่งเพิ่มขึ้นจากระดับเดิมเป็น 3.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.35 หมื่นล้านหยวนต่อวัน แต่ในทางปฏิบัติเมื่อถึงเวลาเข้าจริง นักลงทุนกลับมีมุมมองว่า วงเงินซื้อขายที่คาดเดากันนั้น ต่ำเกินไป
มุมมองที่เกินจริง ทำให้เกิดฟองสบู่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้น
ผลลัพธ์ครั้งนั้นก็ซึมซับกันไปแล้ว คำถามก็คือ รอบนี้ จะเกิดภาวะฟองสบู่แบบเดียวกันได้หรือไม่
คำตอบมีทั้งเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้
ถ้าหากไม่มีการสรุปบทเรียน ปล่อยให้ตลาดมีความบ้าคลั่งในลักษณะ “จีนตื่นหุ้น” ความเป็นไปได้ก็สูง แต่หากสามารถป้องกันได้ ภาวะกระทิงจะยาวนานซึ่งส่งผลมายังตลาดหุ้นเอเชียด้วย
ในยามเกิดปรากฏการณ์เชิงลบ คำกล่าวที่ว่าเมื่อจีนจาม ต่างชาติเพื่อนบ้านย่อมเป็นหวัดหรืออาจโคม่า ดังนั้นในยามเกิดปรากฏการณ์ตรงกันข้าม เมื่อจีนยิ้ม ต่างชาติเพื่อนบ้านก็เตรียมเริงระบำทำเพลงกันได้