KPN+WEH เท่ากับ ?โมนิก้าและทีมงาน

*จริงๆ “โมนิก้า” สนใจความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นมากกว่าเรื่องอื่นๆ แต่เผอิญปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายังติดพันกับเรื่องของหุ้น KPNกับ WEHจึงกลายเป็นเรื่องเม้าท์ที่ต้องมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง พร้อมกับฉายแง่มุมตั้งแต่ต้นยันจบให้ทุกคนได้รับรู้กันอีกครั้ง เพราะหลังจากมีการสลับร่างสร้างรักเป็นที่เรียบร้อย ก็มีการโฆษณาชวนเชื่อออกมาให้เห็นเป็นระลอกกันเลยทีเดียวนะจ๊ะ

*งานนี้ไม่ต้องไปสืบค้นข้อมูลให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะคนในวงการต่างสงสัยว่า “เจ้าของคนเก่า” กับ “เจ้าของคนใหม่” ไปแอบคุยกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนจะมาซั่มกันจนเป็นข่าวใหญ่โต  คนในวงการถึงเกิดอาการพิศวงไม่ใช่น้อย เพราะแต่ละเจ้าที่เปิดหน้าเข้าไปเจรจาขอซื้อหุ้ ก็เป็นกลุ่มทุนที่เพียบพร้อมไปด้วยบุคลากรทางด้านพลังงานทางเลือก..แล้วเจ้านี้มีอะไรบ้าง?

*ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงออร์เดิฟเรียกน้ำย่อยสำหรับคนที่ชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน เพราะตั้งแต่สัปดาห์ก่อนมีคนส่งข้อมูลดีลซื้อขาย RECมาให้ดูเยอะแยะไปหมด บางรายก็โทรมาเม้าท์ให้ฟังแบบละเอียดยิบ “โมนิก้า” ถึงต้องขุดเรื่องนี้มาเม้าท์ให้ฟังอีกรอบ เหตุผลไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากเตือนไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า นี่อาจเป็นเกมโหดที่ต้องคิดให้ดีก่อนตามกระแสนะคะ

*เนื่องจากตัวละครเปิดหน้าคร่าตาให้เห็นครบแล้วทุกราย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้ซื้ออย่างหนุ่มหน้ามล น้อง.ณ กับฝั่งผู้ขายอย่าง เฮีย.น ว่ากันว่า หน้าเสื่อที่เป็นคนกลางคอยเคลียร์การถือหุ้นเป็นโบรกเกอร์ต่างชาติ ซึ่งเป็นคนคอยจัดการเอกสารต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ประเด็นที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุดคือ ใช้เงินเท่าไหร่?ในการรวบหัวรวบหางเพื่อตัวเองจะได้มีสิทธิ์มีเสียงเจ้าค่ะ

*สิ่งที่ต้องคิดถัดมาคือ การรีบปรับเปลี่ยนโครงสร้างในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเงินกู้จากแบงก์ 20,000 ล้านบาทใช่ไหม? หลังแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกสนานว่า เริ่มขาดสภาพคล่อง! ส่วนนายแบงก์หลากสีจะปลาบปลื้มใจกับการปรับเปลี่ยนสร้างเที่ยวนี้ จนเกิดอาการใจอ่อนยอมปล่อยกู้เพิ่มเติมให้อีก ก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงแบงก์นั้นๆ ด้วยตนเองนะค่ะ

*เมื่อแผนดังกล่าวเดินมาถึงตรงนี้ กลุ่มนายทุนย่อมดันแผนเข้าตลาดหุ้นสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเป็นยุทธวิธีถอนทุนคืนแบบทบต้นทบดอก และตัวกลางที่จะเข้ามาประสานผลประโยชน์ก็คงไม่พ้น ดร.เค อีกตามเคยกระมัง! เพราะเจ้านี้เป็นคนเดินสายขายหุ้นมาก่อน จึงรู้วิธีการจัดสรรหุ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง และยังทำให้ขาใหญ่ที่อมหุ้นมานานเป็นปี เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งไงล่ะค่ะ

*น่าเสียดายที่พรายกระซิบแถวตลาดคลองเตย กับ แถวถนนวิภาวดี ยังคงยืนยันหนักแน่นว่า “พูดง่ายทำยาก” ตอนนี้ยังไม่เข้าตลาดหุ้น อยากจะพล่ามอะไรก็พล่ามให้เต็มที่ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยื่นไฟลิ่งอย่างเป็นทางการ คงไม่มีรายการใช้อำนาจพิเศษบางอย่างมาล็อบบี้เหมือนก่อนหน้านี้ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำสองอีกล่ะก้อ สภาพของหุ้นตัวนี้คงดูไม่จืดเลยทีเดียว..อิอิอิ

*สิ่งที่พอคาดเดาจากเหตุการณ์ตรงนี้ได้ก็คือ เมื่อเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหุ้น วันนั้นคงมีรายการสาดหุ้นล็อตใหญ่ออกมาแน่ๆ เพราะกระแสของหุ้นพลังงานทางเลือกในปีหน้าคงไม่ฮอตเท่ากับในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากแผนพลังงานรอบใหม่ที่รัฐจะปล่อยออกมาให้อีก 3,800 เมกะวัตต์ ทำให้หุ้นพลังงานทางเลือกเจ้าอื่นที่อยู่ในตลาดหุ้นมีภาษีดีกว่าเห็นๆ เพราะพรั่งพร้อมด้วยเงินทุนที่แน่นปึ้กเจ้าค่ะ

*เดี๊ยนเม้าท์เรื่องต่างๆ ทั้งหมด เพื่อให้นักลงทุนหัดวิเคราะห์อีกทอดหนึ่ง และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกพาดพิงได้มีโอกาสรับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่ผู้คนในตลาดหุ้นกำลังจ้องมองแบบไม่กระพริบตา เพราะมูลค่ากิจการของหุ้นตัวนี้จะสูงถึง 5-6 หมื่นล้านบาท หากเข้าตลาดหุ้นได้ตามแผน..ขอย้ำว่า หากเข้าตลาดหุ้นได้จริงๆ แต่ถ้าเข้าไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้นการทำ “แบ็กดอร์”..เรื่องมันรู้ๆ กันอยู่..จริงไหมตัวเฮีย!

*สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นคงแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ต่อไปอีกพักใหญ่ ปัจจัยการลงทุนยังไม่มีอะไรที่เป็นทีเด็ดทีขาด ส่งผลให้รูปแบบการเข้าทำยังเป็นการเล่นสั้นๆ ไม่สามารถคาดหวังผลตอบแทนจะได้เป็นกอบเป็นกำ “โมนิก้า” ถึงย้ำเสมอว่า รอบนี้ต้องโฟกัสเป็นรายตัว หรือคิดจะเล่นหุ้นเก็งกำไร ต้องตามกระแสให้ทัน เพราะรอบนี้ไปไว มาไว ไงล่ะค่ะ

*ที่สำคัญวันนี้ต้องยอมรับความจริงกันว่า หุ้นขนาดเล็กมีสตอรี่ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ นักเล่นจากทั่วสารทิศถึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังจะปิดงบไตรมาส 2 หุ้นที่มีอัตราการเติบโตของรายได้ค่อนข้างชัดเจน มักจะกลายเป็นเป้าหมายในการเข้ามาไล่ราคาเสมอ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองไปสืบค้นกันเอาเองว่า หุ้นตัวไหนตรงตามสเป็กที่เม้าท์ให้ฟัง..อิอิอิ