CPN ปักธงรายได้ปี 62 โต 13% เล็งเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง รองรับลูกค้าไทย-ต่างชาติ

CPN ปักธงรายได้ปี 62 โต 13% เล็งเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง รองรับลูกค้าไทย-ต่างชาติ


น.ส.นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 62 จะเติบโต 12-13% จากปีก่อนอยู่ที่ 37,662.63 ล้านบาท เป็นไปตามยอดขายของศูนย์การค้าเดิม (SSSG) ที่คาดจะเติบโต 3-4% หลังจากมีการปรับปรุงศูนย์การค้าเดิมและเริ่มทยอยเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย, เซ็นทรัลชลบุรี, และเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว

นอกจากนี้ เตรียมเปิดศูนย์การค้าใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-city) ในเมืองชาห์อลัม รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง CPN ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ l-R&D Sdn. Bhd. (lRD) ถือหุ้นในสัดส่วน 40% บริษัทลูกของ l-Berhad ที่จะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1/62, เซ็นทรัล วิลเลจ คาดเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3/62 โดยตั้งเป้ารองรับลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี  ส่วนศูนย์การค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ เซ็นทรัล อยุธยา คาดจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1/63

อีกทั้ง ในปีนี้จะมีการบันทึกผลการดำเนินงานของ GLAND เข้ามา 2-3% จากการเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่ (OCC) และการขายคอนโดมิเนียม ขณะที่วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 19,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ และปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม

รวมถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวน 3 โครงการ/ปี โดยบริษัทฯ จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ให้ใกล้เคียงปีก่อน ที่อยู่ที่ 37% และคงระดับค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร (SG&A) ไว้ที่ 17% ใกล้เคียงปีก่อนเช่นกัน

“ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 12-13% โดยจะมาจากการรวมในส่วนของ GLAND เข้ามา 2-3% และการเติบโตของยอดขายจากศูนย์การค้าเดิม ที่คาดจะเติบโต 3-4% หลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะกลับมาเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบ และจะมีการทยอยเปิดให้บริการของศูนย์การค้าที่ได้มีการปรับปรุงไปอีกหลายแห่ง” น.ส.นภารัตน์ กล่าว

ขณะที่บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจในระยะ 5 ปี (62-63) ที่คาดจะมีรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) อย่างน้อย 13% ต่อปี จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) ได้แก่ การพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ การปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่า การพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่และการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

น.ส.นภารัตน์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนศูนย์การค้าในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ และน่าจะเริ่มลงทุนได้ภายในปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นมองขนาดศูนย์การค้าที่ 40,000 ตารางเมตร  และน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าลงทุนศูนย์การค้าไว้ที่ 2-3 โครงการภายใน 5 ปี

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่า 3-5 พันล้านบาท ในปีนี้ เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุ และใช้ในการขยายธุรกิจ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขายสินทรัพย์เข้ากอง CPNREIT คาดจะสรุปได้ภายในไตรมาส 2/62 โดยเบื้องต้นมูลค่าของสินทรัพย์น่าจะไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท

Back to top button