PTTGC ดีขึ้นทุกปี

ตีแผ่บจ.ดัง

คุณอุดม จากบางนา กรุงเทพฯ พูดถึงสถานการณ์ของหุ้น PTTGC หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และดูท่าทางจะปรับตัวลงไปอีกเรื่อย ๆ ทั้งที่เห็นกันเต็มตาว่า กำไรโตต่อเนื่องทุกปี จึงอยากให้อาจารย์ช่วยพูดถึงโอกาสที่หุ้นจะทะยานกลับขึ้นไปใหม่เพราะกลายเป็นบลูชิพที่ลงหนักเกินกว่าเหตุ และสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานอย่างน่าประหลาดใจครับ

 

เรื่องนี้อธิบายได้ง่ายมาก ๆ เพราะเพียงแค่หยิบตัวเลขผลประกอบการออกมาพูด ก็ทำให้นักลงทุนเห็นภาพความน่าสนใจของหุ้น PTTGC ได้อย่างชัดเจน จึงขอพูดถึงประเด็นดังกล่าวมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้นักลงทุนเข้าใจการอ่อนตัวลงของหุ้นได้ชัดเจนขึ้น

เหล่านี้เป็นข้อมูลที่อาจารย์พยายามให้นักลงทุนลองศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเป็นประจำ เพราะตัวนักลงทุนสามารถสรุปเรื่องที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปถามคนอื่นให้มากความนะครับ

ที่สำคัญคือ เมื่อเจาะจงไปยังงบการเงินด้านล่าง จะเห็นว่า ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า PTTGC มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ จึงเบ่งตัวเลขกำไรออกมาค่อนข้างดี (น่าเสียดายปีที่ผ่านมามีข่าวลบเกี่ยวกับสต๊อกสินค้าบริษัทลูก GGC หาย)

ข้อมูลข้างต้นยังบอกให้รู้อีกอย่างหนึ่งว่า สินค้าของบริษัทมีมูลค่าสูง จึงไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพิงยอดขายเยอะ ๆ เพื่อทำให้กำไรงอกเงย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่จะทำให้ PTTGC กลายเป็นบริษัทที่เติบโตแบบยั่งยืน และกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนมากสุดเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาหนัก ๆ นะครับ

เนื่องจากเมื่อนำเอาตัวเลขกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 8.89 บาท มาเทียบกับค่า P/E ที่ระดับ 15 เท่า ได้ราคาเป้าหมายประมาณ 133 บาท ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ราคาหุ้นน่าจะถีบตัวขึ้นไปได้อีกเยอะพอสมควร เพราะราคาหุ้นล่าสุดยังอยู่ไม่ถึงระดับ 75 บาท จึงเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว

หรือถ้าคิดในมุม conservative โดยใช้ค่า P/E ที่ระดับ 10 เท่า ราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนี้จะอยู่ที่ระดับ 89 บาท เป็นอย่างต่ำ ซึ่งยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะพอสมควรเช่นกันครับ

วันนี้ถึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า การอ่อนตัวลงของหุ้น PTTGC น่าจะเป็นโอกาสของการซื้อหุ้นลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวอย่างแน่นอน

ถึงกระนั้นต้องยอมรับความจริงที่ว่า วัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจปิโตรเคมีในแต่ละรอบอยู่ได้ไม่เกิน 5-6 ปี และถ้าเป็นเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนได้รู้ว่า ต้องติดตามดูผลงานในไตรมาส 1 แบบใกล้ชิด เพราะเป็นกุญแจสำคัญที่บอกให้รู้ว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อมากน้อยขนาดไหน ?

สรุปตรงนี้คือ คนที่เข้าซื้อหุ้นต้องเป็นคนประเภทเล่นสั้น ๆ ที่มีการกำหนด “จุดขายทำกำไร” และ “จุดตัดขาดทุน” ที่ชัดเจน เพราะหุ้นตัวนี้ยังมีอะไรที่ต้องลุ้นหลายเรื่องด้วยกันครับ

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

…