หุ้นเทิร์นอะราวด์ปี 61!

จากการรายงานผลประกอบการปี 2561 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้ง SET และ mai พบว่า มีบริษัทที่กำลังฟื้นตัวโดยสามารถพลิกมีกำไรสุทธิอย่างแข็งแกร่ง จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนมีจำนวน 35 บริษัท


เส้นทางนักลงทุน

จากการรายงานผลประกอบการปี 2561 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พบว่า มีบริษัทที่กำลังฟื้นตัวโดยสามารถพลิกมีกำไรสุทธิอย่างแข็งแกร่ง จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนมีจำนวน 35 บริษัท

ทั้งนี้หุ้นที่กำลังฟื้นตัว หรือเรียกว่าหุ้นเทิร์นอะราวด์ ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักลงทุนต่างแสวงหา เพราะกว่าจะได้ชื่อว่าเป็นหุ้นเทิร์นอะราวด์ ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของธุรกิจจนพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง ทางบริษัทต้องปรับกลยุทธ์ของธุรกิจเดิม และมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่จากเดิมเพื่อความแข็งแกร่งของผลประกอบการเพื่อจะทำให้ผลประกอบการกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับหุ้นเทิร์นอะราวด์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้แก่ STA, STEC, PSL, NWR, KBS, THCOM, AMARIN, PDJ, TC, RCI, PG, AQ, SMT, SYMC, TIW, PAF, SST, PE, KDH, CFRESH, SE-ED, UPOIC, ROCK, TCC และ SPACK เป็นต้น

ส่วนหุ้นเทิร์นอะราวด์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้แก่ K, CHO, TVD, UBIS, MORE, NCL, META, PHOL, PLANET และ QTC              เป็นต้น

ดังนั้นสำหรับตัวอย่างของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2561 พลิกมีกำไรจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน เช่น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 2,064.36 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 1,437.05 ล้านบาท อันเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการขายแบบเลือกสรร (Selective Selling) และการบริหารต้นทุนวัตถุดิบของธุรกิจยางธรรมชาติ ทำให้บริษัทสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ อีกทั้งการรับรู้กำไรจากธุรกิจถุงมือยางเต็มปีในปี 2561

บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 1,616.86 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 610.83 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วยปริมาณงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น โดยรายได้หลักที่สำคัญ ได้แก่ รายได้จากการก่อสร้างจำนวน 27,468.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 7,453.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.24% รายได้ค่าเช่าและค่าบริการจำนวน 68.53 ล้านบาท กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจำนวน 262.89 ล้านบาท กำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวน 56.25 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 52.83 ล้านบาท และเงินปันผลรับ 17.79 ล้านบาท

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 456.20 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 129.48 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการเดินเรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 โดยสาเหตุมาจากรายได้เฉลี่ยต่อวันต่อลำเรือเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราค่าระวางเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเดินเรือลดลง โดยมีสาเหตุหลักจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการแปลงค่าเงินจากสกุลเหรียญสหรัฐเป็นสกุลบาทได้ลดลง

ส่วนรายละเอียดตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทที่เหลือดูจากตารางประกอบ

ขณะเดียวกันสำหรับตัวอย่างทางด้านบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในปี 2561 พลิกมีกำไรจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน เช่น บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 128.74 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 236.01 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทผลิตและขายมากขึ้นทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง

ริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 115.82 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 248.78 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 123.49 ล้านบาท รายได้จากการกลับรายการประมาณการหนี้สินจากคดีความ จำนวน 19.75 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยรับของเงินให้กู้ยืม จำนวน 8.09 ล้านบาท เป็นต้น

บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทพลิกมีกำไร 85.53 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 269.74 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เฟสที่ 1 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และจากการเป็นผู้รับเหมา EPC ให้กับโครงการโรงไฟฟ้ามินบู ทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากการขายอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,221.3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกำไรที่เสริมเข้ามาจากการเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่นในกลางปีที่ผ่านมา ที่สามารถสร้างกำไรให้กับบริษัท Turnaround ตามที่คาดการณ์ไว้

ส่วนรายละเอียดตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทที่เหลือดูจากตารางประกอบ

หวังว่าหลังจากนี้ไป หุ้นเทิร์นอะราวด์ทั้งหลาย จะสามารถรักษากำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

Back to top button