สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะไม่คืบหน้า หลังจากมีรายงานว่าจีนอาจจะไม่ทำตามข้อเรียกร้องบางอย่างของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงไม่มากนัก เนื่องจากตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,887.38 จุด ลดลง 26.72 จุด หรือ -0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,832.57 จุด ลดลง 0.37 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,723.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.47 จุด หรือ +0.12%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) ตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.57% ปิดที่ 384.29 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,425.90 จุด เพิ่มขึ้น 13.07 จุด หรือ +0.24% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,788.41 จุด เพิ่มขึ้น 131.35 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,324.00 จุด เพิ่มขึ้น 24.81 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนไม่สนใจรายงานข่าวที่ว่า นายจอห์น เบอร์คาว ประธานรัฐสภาอังกฤษ ออกโรงเตือนนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ให้นำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีเนื้อหาไม่แตกต่างจาก 2 ฉบับแรก เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสัปดาห์นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,324.00 จุด เพิ่มขึ้น 24.81 จุด หรือ +0.34%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับปัจจัยการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 59.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 67.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,306.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 15.372 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.6 ดอลลาร์ หรือ 2.23% ปิดที่ 852.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1551.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะเรียกร้องให้ประธานสภายุโรปขยายเวลาการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3268 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3251 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1352 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1337 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7090 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7099 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.41 เยน จากระดับ 111.40 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์ จากระดับ 1.0010 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3309 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3351 ดอลลาร์แคนาดา