ขึ้นก่อนเลือก..ลงหลังเลือก ?

*หากมองตัวเลขการลงทุนในมุมต่าง ๆ ของตลาดหุ้นไทยยามนี้ “โมนิก้า” เชื่อเหลือเกินว่านักเล่นส่วนใหญ่ยังมองไปที่ผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับการเคลื่อนตัวของดัชนี และยังเป็นตัวที่บ่งบอกถึงเสถียรภาพทางการเมืองอีกด้วย เดี๊ยนถึงเห็นแรงซื้อผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ หลังเก็งล่วงหน้ากันไม่ถูกว่า ทุกอย่างจะราบรื่นจริงไหมนะซี


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองตัวเลขการลงทุนในมุมต่าง ๆ ของตลาดหุ้นไทยยามนี้ “โมนิก้า” เชื่อเหลือเกินว่านักเล่นส่วนใหญ่ยังมองไปที่ผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับการเคลื่อนตัวของดัชนี และยังเป็นตัวที่บ่งบอกถึงเสถียรภาพทางการเมืองอีกด้วย เดี๊ยนถึงเห็นแรงซื้อผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ หลังเก็งล่วงหน้ากันไม่ถูกว่า ทุกอย่างจะราบรื่นจริงไหมนะซี

*เมื่อตัวแปรหลายอย่างยังไม่นิ่งอย่างที่ควรจะเป็น และมีเรื่องมากมายเข้ามากระทบตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงมองการทะยานของดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,634 จุด บวกไป 6.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.96 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการดีดตัวขึ้นมารับข่าวเฟดคงดอกเบี้ย อีกทั้งในอดีตมีการตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับหุ้นว่ามักขึ้นก่อนเลือกตั้ง แต่หลังจากรู้ผลแน่ชัด มักอ่อนตัวลงเป็นประจำ จึงอยากให้นักเล่นเข้าใจกิมมิคตรงนี้ด้วยนะคะ

*ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องถามหาเหตุผลที่ทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันซื้อแล้วขายในเวลาอันรวดเร็ว เพราะมันเป็นไฟต์บังคับของกลุ่มคนที่เน้นเล่นรอบ หลังมองไปข้างหน้าแล้วไม่มีอะไรนิ่งสักอย่าง ผนวกกับในช่วง 2 สัปดาห์ดัชนีพยายามประคองตัวด้วยการเกาะเส้นแนวรับ 75 วัน บริเวณ 1,635 จุด เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดความเชื่อที่ว่า ดัชนีคงไปไม่ไกลเหมือนเดิมพะยะค่ะ

*รายที่ต้องลุ้นหนักในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” กลับมองไปที่พี่เทพ PTTEP เป็นรายแรกของการเล่นเที่ยวนี้ หลังการเคลื่อนตัวของราคาหุ้นในรอบ 2 เดือนกว่า ๆ ไม่เคยวิ่งผ่านระดับ 127 บาท ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นแนวต้าน 200 วันขวางไว้พอดี เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองการขึ้นมาปิดที่ 124 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.87 พันล้านบาท เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ไงล่ะคะ

*ขนาดหุ้น TOP ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายกลับวิ่งขึ้นไม่เกิน 75 บาทเสียที “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการขึ้นมาปิดที่ 71.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท มันใช่จังหวะของการเล่นตามน้ำหรือเปล่า ? เพราะมองจากในมุมของคนที่เกาะติดหุ้นโรงกลั่นเป็นมาระยะ ไม่สามารถมองอะไรที่ยาว ๆ ได้เลยพะยะค่ะ

*ผิดกับในรายของ GULF แกว่งตัวขึ้นในแบบ W-Shape เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6-7 เดือน ก่อนจะปิดเกมด้วยการขึ้นมายืนที่ 92.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 867 ล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นช็อตของการเล่นสั้นก็ได้ เล่นยาวก็ดี เพราะในระหว่างทางมีการหาพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาเติมในพอร์ตตลอดเวลา แวลูของหุ้นตอนนี้เลยอยู่สูงกว่า 100 บาทไปแล้ว..ไม่เชื่อลองไปนับโครงการที่มีอยู่ก็ได้นะจ๊ะ

*ส่วนคนที่ชอบอะไรที่เซฟสุด ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง INTUCH เพราะเป็นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับ 7% เป็นอย่างต่ำทุกปี ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ราคาหุ้นยกตัวสูงขึ้นเป็นระยะ ผนวกกับนักเล่นกลุ่มสถาบันหวนกลับเข้ามาไล่ราคาหุ้นบลูชิพช่วงสั้น ๆ เดี๊ยนถึงเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะขยับขึ้นไปได้อีก หลังวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 57 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 888 ล้านบาทแล้วนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ BCH ทำท่าเหมือนพักฐานเพื่อออมแรงในการเดินหน้าไปต่อ พอเอาเข้าจริงกลับทะยานขึ้นพรวดพราดก่อนจะปิดไปที่ระดับ 16.90 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นเรื่องของการขยับตัวแบบ W-Shape มากกว่าประเด็นอื่น แถมข่าวสารของหุ้นที่เข้ามากระทบไม่มีอะไรแปลกใหม่สักอย่างแบบนี้ ควรเริ่มมองหาจังหวะปล่อยของได้แล้วนะคะ

*คล้ายกับกรณีของ STPI กระชากขึ้นพรวดเดียว ขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.70 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมต่อยอดราคาหุ้นธรรมดา ๆ ที่มาพร้อมกับความหวังเรื่องเทิร์นอะราวด์ ผสมผสานกับการบุ๊กกำไรพิเศษหลังชนะคดี บรรดาแมงเม้าท์เลยเชื่อว่าแวลูของหุ้นจริง ๆ น่าจะสูงกว่านี้พอประมาณไงล่ะจ๊ะ

*สำหรับรายที่ม้วนหางลงแบบไม่ทันตั้งตัว “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามองหุ้น CAZ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจนักเล่นว่า หุ้นที่มีค่า P/E สูงถึงระดับ 26 เท่า มันควรมีเรื่อง growth ค่อนข้างสูงเป็นตัวนำ เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ราคาหุ้นยืนทรงตัวได้อย่างมั่นคง เดี๊ยนเลยถือโอกาสไม่อธิบายอะไรให้มันมากความไปกว่านี้ หลังเห็นราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 4.60 บาท ลบไป 0.32 บาท หรือลงไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54 ล้านบาท เพราะมันอธิบายตัวมันเองได้เป็นอย่างดีแล้วนะซี

 

Back to top button