บลจ.กสิกรฯส่งกองไฮยิลด์บอนด์ 6 เดือนชูผลตอบแทน 2% ขาย 30 มิ.ย.-6 ก.ค.

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2558 บลจ.กสิกรไทย จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแอล (KEFF6MBL) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี


นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2558 บลจ.กสิกรไทย จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแอล (KEFF6MBL) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแอล (KEFF6MBL) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Agricultural Bank of China, ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ T.C. Ziraat Bankasi A.S.,ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 58 ลงมาอยู่ที่ 3.0% จากเดิมซึ่งประเมินอยู่ที่ 3.8% โดยมองว่าปัจจัยการขับเคลื่อนหลักจะมาจากการลงทุนภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ขณะที่การส่งออกยังคงชะลอตัว เช่นเดียวกับภาคการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำที่ 1.50% ต่อปี ไปอีกสักระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านสถานการณ์ของปัญหาหนี้กรีซ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของกรีซเป็นกองทุนหรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น IMF, ECB และ EFSF เป็นต้น และมีเจ้าหนี้เอกชนในสัดส่วนที่น้อย ซึ่งหากกรีซเกิดการผิดนัดชำระหนี้จริงก็ไม่น่าส่งผลกระทบลุกลามไปถึงเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อล็อกผลตอบแทนและรอดูจังหวะการลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนนี้

บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย

Back to top button