ไม่สุดซอย (สักที)
*ต้องยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า ภาวการณ์ลงทุนช่วงนี้น่าอึดอัดใจอย่างมาก เพราะหุ้นเกือบทั้งหมดในตลาดหุ้นอยู่ในอาการเก้ ๆ กัง ๆ ไปไม่สุดซอยกันสักที ส่งผลให้นักเล่นหันมาใช้วิธีสามช่องออกของกันเป็นแถว พร้อมกับทำให้ดัชนีอยู่ในสภาพซึมลงอย่างช้า ๆ ล้วนเป็นแรงกดดันที่มีผลต่อการเคาะขวาในวันนี้มากเหลือเกิน เพราะนักลงทุนวิตกกังวลกันว่า กำไรในไตรมาส 1 มีสิทธิพลาดเป้ากันเป็นแถวนะซี
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ต้องยอมรับโดยดุษฎีบัณฑิตว่า ภาวการณ์ลงทุนช่วงนี้น่าอึดอัดใจอย่างมาก เพราะหุ้นเกือบทั้งหมดในตลาดหุ้นอยู่ในอาการเก้ ๆ กัง ๆ ไปไม่สุดซอยกันสักที ส่งผลให้นักเล่นหันมาใช้วิธีสามช่องออกของกันเป็นแถว พร้อมกับทำให้ดัชนีอยู่ในสภาพซึมลงอย่างช้า ๆ ล้วนเป็นแรงกดดันที่มีผลต่อการเคาะขวาในวันนี้มากเหลือเกิน เพราะนักลงทุนวิตกกังวลกันว่า กำไรในไตรมาส 1 มีสิทธิพลาดเป้ากันเป็นแถวนะซี
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาจั่วหัวแรง ๆ เพื่อทำให้นักเล่นได้เข้าใจถึงสถานการณ์ของหุ้นจำนวนมากที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ ? บวกกับแรงซื้อที่เข้ามายังขาด ๆ เกิน ๆ ตลอดเวลาอีกต่างหาก เดี๊ยนถึงมองไม่ออกเหมือนกันว่า ดัชนีจะเดินหน้าฝ่าแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,650 จุดขึ้นไปได้อย่างไร ? แถมตั้งแต่ต้นปีมีแค่ครั้งเดียวที่ทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ แต่หลังจากนั้นก็ไหลลงยาวลูกเดียวนะจะบอกให้
*เมื่อทุกอย่างยังไม่นิ่งเหมือนเกมการเมืองที่วางไว้ ก็อย่าได้แปลกใจที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,634.25 จุด บวกไป 4.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.80 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีตัวแปรไหนเข้ามาช่วยดันหุ้นแบบสุดซอยได้เหมือนเมื่อก่อน จึงต้องมองการเล่นหุ้นไปทีละช็อต เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไงล่ะคะ
*ผิดกับกรณีของหุ้น GULF ยังคงเดินหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 95.75 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high อีกครั้ง ก่อให้เกิดคำถามในใจขึ้นมาทันทีว่า หากหุ้นขึ้นมาแตะบริเวณ 100 บาทแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ? “โมนิก้า” ตอบได้ในทันทีว่า ต้องติดตามดูตอนต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าแรงซื้อมีเข้ามาต่อเนื่องขนาดไหน ? (ทะลุ 100 ค่อยว่ากันอีกที) ..อิอิอิ
*คล้ายกับกรณีของ VGI อุตส่าห์กระชากขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ในระหว่างวันดันปรากฏสัญญาณ doji evening star โผล่หราขึ้นมาให้เห็นซะงั้น..ทำเอาขาลุยใจหายใจคว่ำกันเป็นแถว เพราะคิดว่าหุ้นจะเปลี่ยนโมเมนตัมจากขึ้นเป็นลง แต่สุดท้ายมีแรงซื้อเข้ามาอัดโครมเดียว หุ้นเลยวิ่งขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 8.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 470 ล้านบาท กลายเป็นจุดที่ทำให้ได้ลุ้นไปต่ออีกยกนะจะบอกให้
*ส่วนที่น่าไล่ตามสุด ๆ กลายเป็นหุ้น BGRIM ซึ่งมาพร้อมพื้นฐานที่แน่นเปรี๊ยะ พ่วงด้วยโปรเจกต์โรงไฟฟ้าที่ปิดเข้ามาไว้ในพอร์ตมากมาย วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 30.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597 ล้านบาท ย่อมเป็นช็อตที่บอกให้แฟนคลับขาประจำได้รู้ว่า หุ้นกำลังวิ่งขึ้นไปหาราคาเป้าหมายบริเวณ 35 บาทในไม่ช้า จึงกลายเป็นหุ้นที่นักเล่นน่าจะมีติดพอร์ตไว้บ้างนะคะ
*สำหรับรายของ STEC อาศัยข่าว กกต. ประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเป็นตัวผลักดันราคาหุ้นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมของการเลือกฝั่งที่ชัดเจนสุด ๆ ราคาหุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 24.40 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.04 พันล้านบาท หลังมีขานเสียงออกมาว่า พปชร. มาอันดับหนึ่งด้วยคะแนนเสียง 8.43 ล้านเสียง ขณะที่ฝั่ง พท. มาอันดับสองด้วยคะแนนเสียง 7.92 ล้านเสียงไงล่ะคะ
*ส่วนรายที่มาเหนือความคาดหมายจริง ๆ “โมนิก้า” ขอยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ DTAC เพราะการขึ้นของหุ้นแต่ละครั้งในช่วงหลังมาจากสตอรี่เพียว ๆ แถมกำไรไม่ได้มาตามนัดเหมือนอย่างที่คาดหวัง “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 53.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 520 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงเกมดันราคาหุ้นล่อแมงเม่าให้แห่ตามธรรมดา ๆ งานนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไม่ยาวพะยะค่ะ
*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากแพตเทิร์นของหุ้น CBG พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนขึ้นไปถึงระดับ 61 บาท พร้อมกับข่าวลือมากมาย แต่สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่เหมือนที่โม้กันไว้ ราคาหุ้นเลยโรยตัวลงมาอย่างช้า ๆ จนลงมายืนอยู่ที่บริเวณ 52 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณ 54.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 315 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่น่าตื่นเต้นจริงเหรอ ? ลองถามใจเธอดูนะคะ
*เหมือนกับเหตุการณ์สยองพองเกล้าที่เกิดขึ้นกับหุ้น CAZ หลังราคาหุ้นดิ่งลงแรงร่วมสัปดาห์แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ที่สาหัสสุดกลายเป็นวานนี้ที่มีแรงขายถล่มออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 3.04 บาท ลบไป 1.16 บาท หรือลงไป 27.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 153 ล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า งานนี้เกี่ยวข้องกับผลงานไม่เข้าเป้า และขาใหญ่วงแตกอย่างแน่นอน..ไม่เชื่อลองถาม “เฮียเสริฐ” ดูก็ได้ (เขาว่ารู้ดีสุด) ..อิอิอิ