สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 เม.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวก ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น Lyft ผู้ให้บริการรถร่วมเดินทาง ในการซื้อขายวันแรกบนดัชนี Nasdaq ก็ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,928.68 จุด เพิ่มขึ้น 211.22 จุด หรือ +0.82% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,834.40 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,729.32 จุด เพิ่มขึ้น 60.16 จุด หรือ +0.78%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ตลาดลดลงจากระดับสูงของวัน โดยถูกกดดันจากการที่สภาสามัญชนของอังกฤษมีมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงเมื่อคืนนี้ คว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นครั้งที่ 3

ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.60% ปิดที่ 379.09 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,350.53 จุด เพิ่มขึ้น 53.99 จุด หรือ +1.02% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,526.04 จุด เพิ่มขึ้น 97.88 จุด หรือ +0.86% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.19 จุด เพิ่มขึ้น 44.86 จุด หรือ +0.62%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ดีเกินคาด ขณะที่เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก โดยปอนด์ถูกดดัน หลังสภาสามัญชนของอังกฤษมีมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงเมื่อคืนนี้ คว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นครั้งที่ 3

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,279.19 จุด เพิ่มขึ้น 44.86 จุด, +0.62%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณบ่งชี้ภาวะตลาดน้ำมันโลกตึงตัว เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งการที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 60.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 68.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) โดยราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังการร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนได้กลับเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,298.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 13.70 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 15.11 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. บวกขึ้น 10.30 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 854.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 32.10 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,341.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นไปในเชิงบวก ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงเมื่อคืนนี้ คว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เป็นครั้งที่ 3

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.09% สู่ระดับ 97.2936

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.82 เยน จากระดับ 110.58 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9960 ฟรังก์ จากระดับ 0.9954 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3355 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3440  ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1227 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3003 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3058 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะที่ระดับ 0.7097 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7077 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button