IPO ครึ่งปีหลังลูบคมตลาดทุน

ตลาดหุ้นไทยผ่านช่วงครึ่งแรกปี 2558 ไปแล้ว


ธนะชัย ณ นคร

 

ตลาดหุ้นไทยผ่านช่วงครึ่งแรกปี 2558 ไปแล้ว

ณ สิ้นปี 2557 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,497.67 จุด

แต่หลังผ่านมาช่วง 6 เดือนแรกปี 2558 หรือ ณ วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ดัชนีปิดที่ 1,504.55 จุด นั่นเท่ากับว่า ดัชนีบวกขึ้นมาเพียง 6-7 จุดเท่านั้น จากสิ้นปี 2557

ทว่าช่วงครึ่งแรก ดัชนีเคยขึ้นไปสูงสุด 1,619 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2558

และลดลงต่ำสุด 1,476 จุดช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2558

ส่วนมูลค่าการซื้อขายในไตรมาสแรก ตัวเลขเฉลี่ย 5.1 หมื่นล้านบาทต่อวัน

ส่วนในไตรมาส 2 ตัวเลขน่าจะปรับลดลงครับ เพราะช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน มูลค่าซื้อขายต่อวัน เฉลี่ย 3.5-4.0 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

หากไตรมาส 3 นี้ มูลค่าการซื้อขายยังเป็นแบบนี้ บรรดาโบรกฯ อาจต้องใช้เท้าก่ายหน้าผากกันอีกรอบ

มาถึงหุ้นไอพีโอกันบ้าง

ย้อนกลับไปดูตัวเลขในปี 2557 กันซักหน่อย

ปีนั้นมีหุ้นไอพีโอเข้า SET จำนวน 16 ตัว และเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ฯ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอีก 9 ตัว

ส่วนหุ้นไอพีโอใน mai จำนวน 20 ตัว

นั่งนับนิ้วรวมทั้งหมดแล้ว ได้ตัวเลขเท่ากับ 45 ตัว

หากจำกันได้ช่วงครึ่งแรกปี 2557 หุ้นไอพีโอซบเซาจริง บรรดานักเลงหุ้นถึงขนาด “ร้องไห้หนักมาก”

เพราะพ่อคุณ แม่คุณ เล่นกีฬาสีกันสนุกสนาน รัฐบาลก็ง่อยเปลี้ยเสียขา นายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ไม่มี คือ ประเทศเดินหน้าไปไหนไม่ได้เลย

กระทั่ง “ลุงตู่” เข้ามานั่นแหละ

การเมืองที่ฝุ่นหายตลบ ทำให้บรรยากาศมันดูดีขึ้น

หุ้นไอพีโอช่วงครึ่งปีหลัง 2557 จึงเข้ามาจำนวนมาก หรือแทบจะเป็นรายอาทิตย์กันเลย บางอาทิตย์มีเข้ามาเทรด 2-3 ตัว

เพราะอัดอั้นกันมานาน

ปุจฉา…แล้วครึ่งแรกปี 2558 ล่ะ

คือ…ปีนี้เห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าจะมีหุ้นไอพีโอราว 42-43 ตัว หากผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเป้าหุ้นไอพีโอของ mai ประมาณ 22 ตัว แต่ผ่านมาครึ่งปี เพิ่งจะเข้าเทรดเพียง 4 ตัว ดูแล้วช่างแห้งแล้งเหลือเกิน

ส่วนหุ้นใน SET ก็เพิ่งจะเข้าไปเพียง 7 ตัว

ที่เหลือเป็นพวกกองอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอีก 3 ตัว เท่านั้น

รวมกันแล้ว ก็ 14 ตัวเอง

ทำให้เป้าหมายที่ตั้งกันไว้ ยังเดินมาไม่ถึงครึ่งทางเลย

เหตุการณ์แบบนี้ มันสวนกับบรรดาที่ปรึกษาทางการเงิน (FA หุ้นไอพีโอ) และโบรกฯ ต่างมองก่อนหน้านี้ว่า ในปี 2558 หุ้นไอพีโอจะเทรดกันสนุกสนานแน่นอน เพราะมีไอพีโอค้างท่อมาเยอะ

ผ่านมาถึงวันนี้ แม้การเมืองนิ่ง แต่เศรษฐกิจฟุบ

ทำให้หุ้นไอพีโอที่ค้างท่อมาจากปี 2557 ก็ยังคงค้างท่อต่อไป

เพราะยังมองไม่ออกเลยว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นจากตรงไหน เพราะตัวเลขส่งออกก็เดี๋ยวทรง เดี๋ยวทรุดด้านการท่องเที่ยวมาเจอกับปัญหา ICAO และโรคเมอร์สอีก

หรือจะพึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ฯลฯ

โครงการพวกนี้ หากสมมุติว่าจะประมูลกันวันนี้หรือพรุ่งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะตอกเสาเข็มกันได้เลย เพราะยังมีเรื่องจิปาถะกันอีกเยอะกว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างได้

เม็ดเงินที่คาดว่าจะเข้ามาหมุนเวียนในระบบจากโครงการขนาดใหญ่ ก็อาจจะไปเห็นผลในปี 2559

ส่วนปัจจัยภายนอกก็ไม่ดี ปัญหา “กรีซ” ทำให้ “ร้องกรี๊ด” ได้

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย!!

ปัจจัยลบที่เข้ามารุมเร้าแบบนี้ ก็เลยทำให้ดัชนีหุ้นไทยพายเรืออยู่ในอ่างนั่นแหละ โดยเฉพาะช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

ใครซื้อขายหุ้น ก็ต้องทำตัวรบแบบ “กองโจร” เข้าเร็ว ออกเร็ว

หุ้นไอพีโอหลายตัวที่เข้ามาช่วงครึ่งปีแรก บางตัวราคาก็ยังไม่ผ่านไอพีโอเลย เช่น GPSC ทั้งๆ ที่พื้นฐานดี (มาก) แต่ภาวะโดยรวมทำเสียราคาหมด

หุ้นไอพีโอที่จ่อจะเข้ามา ก็เลยต้องรอดูภาวะตลาดกันใหม่

และนี่เลยเป็นการบ้านข้อที่ค่อนข้างปวดหัวสำหรับ FA ที่จะพาหุ้นไอพีโอเข้าเทรดในช่วงกระแสน้ำเชี่ยว และวิ่งไปแบบไร้ทิศทาง ให้หุ้นออกมางดงามอย่างไร (เช่น HPT)

มิเช่นนั้นอาจต้องร้องไห้หนักมาก

 

 

 

 

 

Back to top button