KTB หืดจับ! บุ๊คมหากาพย์หนี้ “กฤษดาฯ” 9 พันล.ส่อยืดเยื้อ จับตาศาลนัดสืบ 25-26 เม.ย.นี้

สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 เม.ย.2562 รายงานว่า บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้น ต์ จำกัด (ทีอาร์เอ) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT (เดิมชื่อ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON) กับ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด (นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย) ได้ชนะการประมูลขายทอดตลาดที่ดินว่างเปล่าจำนวน 215 แปลง ของบริษัท กฤษดามหานคร หรือ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ในปัจจุบัน ด้วยวงเงินประมูลรวม 8,914,070,000 บาท

ทั้งนี้จากกำหนดการเดิม ทางทีอาร์เอฯ จะต้องจ่ายเงินค่าประมูลในวันที่ 1 ก.พ. 2562 แต่ผ่านมาถึงขณะนี้ ทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ในฐานะเจ้าหนี้ยังไม่ได้รับการชำระเงินดังกล่าว และทราบมาว่ามีเจ้าหนี้มายื่นคัดค้านการขายทอดตลาด ส่งผลให้ทางทีอาร์เอฯ ไม่สามารถที่จะชำระเงินได้ทั้งหมด อ่านเพิ่มเติม อลเวงที่ดินกฤษดาฯ จ่ายโอนได้เพียง 50%

ล่าสุด บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่วันที่ 17 ต.ค. 2561 บริษัทได้ดำเนินการขายทอดตลาดหลักทรัพย์ประกัน ในราคา 8,914.07 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์ที่ขายทอดตลาดดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

โดยประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 โดยการยึดทรัพย์การขายทอดตลาดที่ดินของบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี่ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด จำนวน 1,768 ไร่ ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดมูลค่า 4,019.62 ล้านบาท ผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำ จำนวน 201 ล้านบาท ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะชำระภายในวันที่ 1 ก.พ.2562 และเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2562 ผู้ซื้อได้ชำระเงินจำนวน 3,818.62 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มที่ 2 คดีแพ่ง คดีหมายเลขแดงที่ 4007/2552 คดีสาขาดำที่ ถ.59/2561 บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โจกท์ ฟ้อง บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี่ อินดัสเทรียล พาร์ค (โกลเด้นฯ) จำเลย เรื่องเงินมัดจำที่ดิน เนื้อที่ดินคดีนี้ที่ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดจำนวน 659-3-60 ไร่ กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของบริษัทโกลเด้นฯ ผู้ซื้อประมูลซื้อราคา 1,261.02 ล้านบาท วางเงินมัดจำจำนวน 65 ล้านบาท คงเหลือต้องชำระจำนวน1,196.02 ล้านบาท

โดยผู้ร้องคือ บริษัท เคแอนด์วี เอส อาร์ เอส จำกัด ถือหุ้นโดย โกลเด้นฯ 99.97% ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาด โดยอ้างว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นคำคัดค้านฉบับลงวันที่ 24 ม.ค. 2562 ยื่นคำร้องดังกล่าวแล้วและศาลได้นัดฟังคำสั่งศาลแพ่งในวันที่ 20 มี.ค.2562 ศาลพิพากษาว่าผู้ร้องเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัท โกลเด้นฯ ผู้ร้องจึงมิได้มีฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคดี

อีกทั้งการยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดในคดีนี้เกี่ยวพันหรือกระทบต่อผู้ร้อง ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีล้มละลายกลาง ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าทำให้ผู้ร้องไม่สามารถชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้ครบถ้วน และได้รับความเสียหาย จึงถือว่าเป็นการต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ เมื่อผู้ร้องถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย อำนาจในการต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ร้องเป็นอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ ผลของคดีศาลยกคำร้อง

ส่วนกลุ่มที่ 3 คดีศาลล้มละลายกลางคดีหมายเลขแดงที่ ล.1249/2555 ทรัพย์ขายทอดตลาดจากคดีนี้ จำนวน1,868-3-97.72 ไร่ กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นของบริษัท เคแอนด์วี เอส อาร์ เอส จำกัด ผู้ซื้อประมูลซื้อราคา 3,633.43 ล้านบาทวางเงินมัดจำจำนวน 182.50 ล้านบาท คงเหลือต้องชำระจำนวน 3,450.93 ล้านบาท ภายในวันที่ 1 ก.พ. 2562 บริษัท เคแอนด์วี ฯ ร้องคัดค้าน ทำให้ผู้ซื้อยื่นเรื่องต่อศาลคัดค้านคำร้องของบริษัท เคแอนด์วี ฯ โดยอยู่ระหว่างคำคัดค้าน 3 คดี

โดยแบ่งออกได้ดังนี้ 3.1 คดีหมายเลขดำที่ สล.365/2561 เรื่องกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้สั่งเพิกถอนคำสั่งได้มีคำสั่งให้กันโฉนดเลขที่ 610 เนื้อที่ 18 ไร่ 83 ตารางวา ออกจากการขายทอดตลาดซึ่งมีส่วนของนางสาวเจริญ อยู่คงธรรมในอัตราส่วน800.66 ส่วนและดำเนินการขายทอดตลาด โดยคดีนี้ผู้ร้องได้มายื่นขอเพิกถอนการขายทอดตลาดว่าเป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลรับคำร้องเป็นคำคัดค้านและให้เรียกบริษัทโกลเด้นฯ ว่าเป็นผู้คัดค้านที่ 3 แล้วได้ทำการสืบพยานจนแล้วเสร็จและนัดฟังคำสั่งในวันที่ 5 มีนาคม 2562 ผลของคดีศาลยกคำร้อง

3.2 ศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขดำที่ สล.388/2561 ผู้ร้องยื่นคำร้องว่านำทรัพย์ของผู้ร้องไปขายรวมกับที่ดินของบริษัท โกลเด้นฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ชั่วคราว ศาลได้มีคำสั่งเห็นว่าตามคำร้องและเอกสารท้ายร้องโดยตลอดแล้ว กรณียังไม่ปรากฏเหตุอันควรตามกฎหมายที่จะได้งดการขายทอดตลาดตามคำร้อง ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

3.3 คดีหมายเลขดำที่ สล.438/2561 เรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินของลูกหนี้ที่ 2 (บริษัท เคแอนด์วี เอส อาร์ เอส การ์เด้น โฮม จำกัด) โดยคดีนี้ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดว่าเป็นการขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้งดบังคับคดีไว้ชั่วคราว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2562 ศาลมีคำสั่งให้รับทนายของบริษัทผู้มีส่วนได้เสีย (บริษัทโกลเด้นฯ) และให้เรียกว่า ผู้คัดค้านที่ 2 แล้วกำหนดวัดนัดสืบพยานในวันที่  25 และ 26 เม.ย. 2562

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ซื้อที่ดินหลักประกันได้ยื่นเรื่องต่อศาลจะจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อคดีเสร็จสิ้นโดยมีจำนวนเงินที่ต้องชำระคงเหลือ 4,646.95 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานความเห็นจากที่ปรึกษาทางกฎหมายรายหนึ่ง ระบุว่า กระบวนการภายหลังจากการสืบพยานสำหรับกรณีในลักษณะนี้ โดยปกติหากว่าไม่มีผู้ร้องค้านหรือมีปัญหาอื่นใดด้านข้อกฎหมายเพิ่มเติม ก็มีโอกาสเห็นความชัดเจนของข้อสรุปได้ภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน

อนึ่ง บริษัทผู้ชนะการประมูลที่ดินหลักประกันดังกล่าว โดยผู้ที่ชนะการประมูลมีบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี