สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 เม.ย. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมทั้งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ขณะที่หุ้นเทสลาดิ่งลงกว่า 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการจัดส่งรถยนต์ที่ทรุดตัวลงในไตรมาสแรกปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 166.50 จุด หรือ +0.64% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,879.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด หรือ +0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,891.78 จุด ลดลง 3.77 จุด หรือ -0.05%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนี ร่วงลงในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าของกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.27% ปิดที่ 387.87 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,463.80 จุด ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.09% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,401.94 จุด ลดลง 16.34 จุด หรือ -0.22% ขณะที่ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,988.01 จุด เพิ่มขึ้น 33.61 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดปรับตัวลง หลังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีร่วงลงในเดือนก.พ. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปที่กระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,401.94 จุด ลดลง 16.34 จุด หรือ -0.22%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) และสถาบันปิโตรเลียอเมริกา (API) เปิดเผยรายงานที่สอดคล้องกันว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดทางทหารในลิเบียอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 62.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,294.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.18 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 15.084 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 30.30 ดอลลาร์ หรือ 3.47% ปิดที่ 904.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 45.890 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 1,332.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนี หลังจากสถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจหลายแห่งได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของเยอรมนีในปีนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปี
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1220 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1240 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3064 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3155 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7120 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7116 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.59 เยน จากระดับ 111.46 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9999 ฟรังก์ จากระดับ 0.9977 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3355 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3338 ดอลลาร์แคนาดา