สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 เม.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นโบอิ้งที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากทางบริษัทประกาศแผนลดการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับปัจจัยลบจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสายการบิน อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และเวลส์ ฟาร์โก ที่มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,341.02 จุด ลดลง 83.97 จุด หรือ -0.32% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,895.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด หรือ +0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,953.88 จุด เพิ่มขึ้น 15.19 จุด หรือ +0.19%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นส่งผลกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตากระบวนการที่อังกฤษจะต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 12 เม.ย.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.19% ปิดที่ 387.51 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่  5,471.78 จุด ลดลง 4.42 จุด หรือ -0.08% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,963.40 จุด ลดลง 46.35 จุด หรือ -0.39% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,451.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด หรือ +0.07%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนในตลาดยังคงมุ่งความสนใจไปที่กระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,451.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด หรือ +0.07%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในลิเบียอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกอาจประสบภาวะตึงตัว ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า สนามบินในกรุงทริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ได้รับความเสียหายจากการถูกเครื่องบินรบทิ้งระเบิดถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 71.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้อีกครั้ง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,301.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 15.216 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.50 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 912.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1353.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลดลงในเดือนก.พ. ขณะที่สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.51 เยน จากระดับ 111.70 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์ จากระดับ 0.9999 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3311 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3388 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1261 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1218 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3029 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7102 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button