SET เสี่ยงลงต่อ หุ้นกลุ่มแบงก์ยังกดดันเลือกเก็บ 17 หุ้น รับเหมา-กำไร Q2 แจ่ม
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวถึงปรับตัวลง นักลงทุนยังรอดูผลประชามติของกรีซในวันที่ 5 ก.ค. นี้ ว่าจะยอมรับแผนรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นช้ากว่าคาด และกำไรไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.26 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.74 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวหรือปรับตัวลง โดยคาดว่านักลงทุนยังรอดูผลประชามติของกรีซในวันที่ 5 ก.ค. นี้ว่าจะยอมรับแผนรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศนั้นตลาดยังกังวลต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นช้ากว่าคาด และกำไรไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะออกมาไม่ดี
หุ้นเด่นเลือก CK-STEC-SEAFCO-INTUCH-TRUEIF-PTTGC-BCP-BLA-BANPU-SAMART-IFEC-IRPC-RCL-TASCO-TUF-HANA และ ITD
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ค.)ว่า SET หลุดแนวรับ 1,495 จุด ทำให้ในทางเทคนิคมีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” นานกว่าที่คาดไว้เดิม โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,488/1,476 จุด
ขณะที่ทางพื้นฐานต้องยอมรับว่า NPLs ที่เร่งตัวขึ้นเป็น Downside Risk ต่อคาดการณ์กำไรกลุ่มธนาคารปี 58 ประมาณ 6% และคิดเป็นประมาณ 1.8% ของประมาณการกำไร SET (เฉพาะ TNS Coverage) ซึ่งทำให้มองว่าการปรับลดลงของกลุ่มธนาคารลดลง 6.4% และ SET ลดลง 1.7% ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ เป็นการตอบรับความเสี่ยงจากการปรับประมาณการกำไรลงไปแล้ว
โดยหุ้นกลุ่มธนาคารหลายตัวปรับเข้าใกล้แนวรับ ดังนี้ KBANK (รับ 175/170 บาท) SCB (รับ 148/145 บาท) BBL (รับ 170 บาท) KTB (รับ 16.3/15.8 บาท) TMB (รับ 2.18 บาท)
ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มหุ้นปันผลสูง อีกทั้งคาดงบไตรมาส 2/58 ออกมาดี อย่าง CK ,STEC ,SEAFCO ,INTUCH ,TRUEIF ,PTTGC ,BCP ,BLA
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ทรงหรือลงต่อ แนะเก็งกำไรผลประชามติกรีซวันอาทิตย์นี้ โดย KGI คาด SET วันศุกร์แกว่งตัวลง (วานนี้ลงแรงกว่าคาด หลังหุ้นธนาคารเผชิญแรงขายหนัก) ปัจจัยภายนอกเป็นกลาง โดยนักลงทุนรอดูผลประชามติของกรีซในวันที่ 5 ก.ค. ว่าจะยอมรับแผนรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้หรือไม่
ส่วนฝั่งสหรัฐตัวเลข non-farm payrolls มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.23 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่มีการลดตัวเลขจ้างงานในสองเดือนก่อนหน้านี้ ผนวกกับตัวเลข Wage growth ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐ อ่อนลงเล็กน้อย
ด้านปัจจัยภายในคาดว่าตลาดยังกังวลต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นช้ากว่าคาด และกำไรไตรมาส 2/58 ของกลุ่มธนาคารไม่ดี ภาพรวมหากรับความเสี่ยงได้ แนะเข้าเก็งกำไรลุ้นผลประชามติกรีซยอมรับแผนของเจ้าหนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน หากรับเสี่ยงได้แนะนำเก็งกำไร PLANB อีกทั้งแนะนำสะสมหุ้นหลัก BANPU,SAMART,IFEC,INTUCH
บล.เอเซียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ค.) กลยุทธ์การลงทุน SET ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวตามแรงกดดันภายในและภายนอก กลยุทธ์การลงทุนภายใต้สถานการณ์นี้ ยังเน้นเลือกรายหุ้นเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มผลกำไรโดดเด่นในไตรมาส 3/58 เช่น IRPC-RCL-TASCO-HANA-TUF วันนี้ยังเลือก HANA(FV@B48) เป็น Top Pick
บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ค.) ว่า ทิศทางตลาดมีโอกาสอ่อนตัวลง หลังวานนี้เคลื่อนไหวสวนทางภูมิภาคส่วนใหญ่ ภายใต้น้าหนักลบจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่ได้รับแรงกดดันจาก NPL ทำให้ส่วนใหญ่มีการปรับลดประมาณการลง
ขณะที่ในวันนี้ BBL จะมีการประชุมนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิออกมาสูงเกือบ 4,400 ล้านบาท หรือประมาณ 129 ล้านUSD ซึ่งสูงกว่าในภูมิภาค
ด้านปัจจัยต่างประเทศ แนะติดตามสถานการณ์กรีซต่อเนื่องคาดเข้าสู่ช่วงวิกฤติ หลัง IMF ระบุกรีซผิดนัดชำระหนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตลาดมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น จากความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาอีกครั้งหลังการลงประชามติ (5 ก.ค.58) แม้กรณีเลวร้ายสุดกรีซต้องออกจากกลุ่มยูโร คาดผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอาจเป็นไปอย่างจำกัด
หุ้นแนะนำ: ITD
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ก.ค.) คาดว่า SET อาจมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาไม่ดีนัก ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจคลายความกังวลเกี่ยวกับการโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปลงได้บ้าง
อย่างไรก็ตามคาดว่า SET จะทำได้เพียงการแกว่งทรงตัวบวก-ลบในกรอบจำกัด และมีแนวโน้มที่จะยังต้องปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก ทั้งจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์หนี้ของกรีซ และความอ่อนแอของภาวะเศรษฐกิจบ้านเรา รวมถึงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เราคาดว่าจะยังกดดันให้ SET รีบาวน์ได้ในกรอบจำกัด และยังเน้นหนักทางด้านปรับลงต่ออยู่ แนวรับ 1,490-1,488 , 1,483-1,476 จุด แนวต้าน 1495-1500 , 1503-1506 จุด