CKP ตีตั๋วยาว

สำนักข่าวรัชดา

ตอนนี้ว่าดีแล้ว แต่หุ้นบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีก หลังผ่านแนวต้าน 6 บาทมาได้..ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ว่าแล้วจะไปต่อได้อีกไกลไหม..!? เอาเป็นว่า “ตีตั๋วยาว” ได้เลย ด้วยไทม์ไลน์ที่จะเกิดขึ้นมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว

เริ่มจากไตรมาส 1/62 กำไรมีแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 1/61 จากปริมาณน้ำโครงการน้ำงึม 2 สูง นับตั้งแต่ปลายปีก่อนและไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง.!

จากโครงการน้ำงึม 2 ต่อเนื่องมาที่โครงการไซยะบุรีที่ CKP ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังผลิต 1,285 เมกะวัตต์ จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ปลายเดือน ต.ค.นี้ CKP จะรับรู้กำไรในรูปของเงินปันผลโดยที่ผ่านมา เดินเครื่องมาก่อนบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำมารับรู้เป็นรายได้ เป็นเพียงการบันทึกหักค่าใช้จ่ายที่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง

โครงการไซยะบุรี มีมูลค่า 130,000 ล้านบาท ระยะเวลาคืนทุน 18 ปี (ไม่นับรวมระยะเวลาก่อสร้าง 8 ปี)

จุดที่น่าสนใจ CKP มีแผนปรับหนี้โครงการไซยะบุรี จากสกุลเงินดอลลาร์ มาเป็นหนี้สกุลบาท ล่าสุดมีหนี้สกุลดอลลาร์กว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ และหนี้เงินบาท 55,000 ล้านบาท ทำให้ CKP มีต้นทุนดอกเบี้ย 3.6% ลดลงจาก 4% ช่วยลดภาระดอกเบี้ย ปีละ 150 ล้านบาท อัตราหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.76 เท่า

“ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์” กรรมการผู้จัดการ CKP ประเมินว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 8-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 9,100 ล้านบาท เนื่องจากค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ที่ขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับขึ้น 8% ตามสัญญา และโรงไฟฟ้าบางปะอิน 2 มีรายได้เข้ามาเต็มที่ตลอดทั้งปี

อีกไฮไลต์สำคัญ..อยู่โครงการใหม่ที่ CKP อยู่ระหว่างเจรจาตรงกับสปป.ลาว เพื่อพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาด 1,500 เมกะวัตต์ ที่จะมีความชัดเจนภายในปีนี้ หลังใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ปี

ถือเป็นบิ๊กโปรเจกต์..ที่การันตีรายได้ CKP ได้อย่างมีเสถียรภาพในอนาคต..!!!

นี่ยังไม่รวมแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ที่ต้องนำเข้าไฟฟ้าพลังงานน้ำ (Import Hydro) จากประเทศเมียนมาและสปป.ลาว โดยเฉพาะเมียนมา มีศักยภาพโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งประเทศราว 100,000 เมกะวัตต์ ที่จะเป็นโอกาสของ CKP อีกทางหนึ่ง..

เอาเป็นว่าหุ้น CKP ลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว..!!

แต่หากเงินเหลือ “ตีตั๋วยาว” ไปได้เลย..!??

…อิ อิ อิ…